ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันอังคารที่ 24 มีนาคม 2563

24 มีนาคม 2563, 07:53น.



'สมเด็จพระสังฆราช' ทรงให้วัดทั่วประเทศตั้งโรงทาน บรรเทาความยากลำบาก




          สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย การประกอบอาชีพ การดำเนินชีวิตประจำวัน และฐานะทางเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย หรืออยู่ในภาวะที่ต้องปรับรูปแบบการดำรงชีวิตอย่างกะทันหัน พร้อมทั้งทรงพระดำริว่า วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชนคู่กับสังคมไทย มีพระบัญชาโปรดให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พิจารณาสั่งการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ประสานงานกับวัดทั่วราชอาณาจักรซึ่งมีศักยภาพเพียงพอ จัดตั้งโรงทาน ช่วยเหลือผู้ประสบความยากลำบากในสถานการณ์โรคระบาด ทั้งนี้ มิใช่การบังคับ แต่เป็นการกำหนดแนวทางประสานความร่วมมือ โดยให้คำนึงถึงความความพร้อมของแต่ละวัด ประกอบกับการสนับสนุนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในชุมชนนั้นๆ ต้องไม่มีการจัดพิธีการ พิธีกรรม กิจกรรม หรือการบริหารจัดการใดๆ ที่ต้องให้บุคคลจำนวนมากมารวมตัวกัน



เวชภัณฑ์ที่รัฐบาลจีนบริจาคให้ไทยถึงกรุงเทพแล้ว



          เวชภัณฑ์ที่รัฐบาลจีน บริจาคให้ประเทศไทยในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ได้ส่งมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เวชภัณฑ์ดังกล่าวได้แก่ ชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หน้ากาก N95 และชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เป็นต้น นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับความช่วยเหลือจากจีน โดยส่งชุดตรวจโรค 20,000 ชิ้น หน้ากากอนามัย 100,000 ชิ้น หน้ากาก N95 จำนวน 20,000 ชิ้น ชุดป้องกัน 20,000 ชุด 



อ.ปริญญา ชี้แจงการตั้งโรงพยาบาลสนามใน มธ. ศูนย์รังสิต




          ผช.ศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ข้อมูลเรื่องการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต โดยระบุว่า ตามที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติได้ร่วมมือกับโรงเรียนแพทย์ 5 สถาบันคือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล และกระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กำลังรุนแรงมากขึ้น และระบบสาธารณสุขโดยปกติอาจจะไม่เพียงพอในการรักษา โดยได้ขอใช้อาคารดีลักซ์ ซึ่งเป็นอาคารหอพักบุคลากรและบุคคลภายนอก เป็นสถานที่ในการดำเนินการ ในฐานะรองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิตที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้ ขอชี้แจงว่า




1.อาคารดีลักซ์ ที่จะปรับให้เป็นโรงพยาบาลสนาม จะรับเฉพาะผู้ป่วยที่ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลที่ได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว และอยู่ในระหว่างการกักตัว โดยจะดำเนินการปิดกั้นให้เป็นสถานที่ปลอดเชื้อ 100 % ตามมาตรฐานโรงพยาบาลธรรมศาสตร์และมาตรฐานสากลทางการแพทย์ โดยไม่ให้มีการเข้าออกโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะอนุญาตเฉพาะผู้มีหน้าที่โดยตรงเท่านั้น



2.ผู้ป่วยจะเดินทางด้วยรถพยาบาลที่ฆ่าเชื้อและส่งเข้าโรงพยาบาลสนามทันที ทั้งนี้ เนื่องจากไวรัสโควิด-19 แพร่โดยคนสู่คน ไม่แพร่ทางอากาศ ดังนั้น โรงพยาบาลสนามแห่งนี้จึงปลอดภัยและไม่มีการแพร่เชื้อออกมาภายนอก 100 %



3.สำหรับบุคลากรภายในจำนวนหนี่งที่พักในอาคารดีลักซ์ มหาวิทยาลัย ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง และจะให้สำนักงานบริหารทรัพย์สินฯ จะดำเนินการ หาห้องพักให้ใหม่และช่วยย้ายของให้



4.สำหรับบุคลากรที่พักในอาคาร 14 ชั้น ที่อาจจะมีความไม่สบายใจ เนื่องจาก อยู่ติดกับอาคารดีลักซ์ ทางเข้าออกของอาคาร 14 ชั้นด้านที่ติดกับอาคารดีลักซ์จะปิดกั้นแยกส่วนโดยเด็ดขาดและมีการป้องกันตามมาตรฐานของโรงพยาบาล ยืนยันว่า บุคลากรที่พักในอาคาร 14 ชั้น จะไม่ได้รับผลกระทบ นอกจากจะเข้าอาคารทางด้านอาคารดีลักซ์ไม่ได้อีกต่อไปเท่านั้น ผช.ศ.ดร.ปริญญา จะขอทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถจะไม่ให้กระทบคนที่พักอาศัยในอาคาร 14 ชั้น และในหอพักอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยแน่นอน



รองปลัดสธ. ชี้ไทยอยู่บนทาง 2 แพร่ง




          นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาประเทศไทยมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดทั้ง ๆ ที่ตรึงสถานการณ์มา ได้ถึง 2 เดือนแล้ว จึงทำให้มีการตั้งคำถามว่าแล้วประเทศไทยจะเป็นอย่างไรซึ่งต้องบอกว่าตอนนี้เป็นทาง 2 แพร่งของประเทศไทย และมีช่วงเวลาทองเพียงไม่นานเพราะตามกราฟข้อมูลสถิติที่เป็นวิทยาศาสตร์ มีการคำนวณว่าประเทศใดที่มีจำนวนผู้ป่วยถึง 100 คนแล้ว จะมีตัวเลขพุ่งขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ถ้าทุกคนหยุดจะเป็นพระคุณกับระบบสาธารณสุขมาก ประเทศไทยตอนนี้มีผู้ป่วยอยู่ที่ 700 คน เราอยู่ตรงทางแยก เรายังอยู่ช่วงที่ทางการแพทย์เรียกว่าช่วงเวลาทองที่หากเราไม่ปฏิบัติตัว มีวินัยอย่างเคร่งครัด ไม่หยุดอยู่กับบ้าน ไม่หยุดเชื้อยังมีการเดินทาง อนาคตของประเทศไทยจะเดินไปสู่จุดที่เหมือนกับยุโรป หมายความว่าอีกไม่กี่วันเราจะมีผู้ป่วยทะลุ 1,000 คน และหลายพันคนในไม่กี่วัน ถึงวันนั้นแล้วก็ยังนึกไม่ออกว่าทางการแพทย์เราจะรับมือได้มากน้อยแค่ไหนถึงแม้จะทำดีมากที่สุด มีความพร้อมมากที่สุด แต่จะมีคนเสียชีวิตมากขึ้นเพราะฉะนั้นเรายังอยู่ในจุดที่เลือกได้ ถ้าทุกคนเลือกช่วยกันหยุด ประเทศไทยจะค่อย ๆ เบนสถานการณ์พบผู้ป่วยแบบช้า ๆ แบบที่ญี่ปุ่น ไต้หวัน จึงขอให้ดำเนินการตามมาตรการที่รัฐออกมาอย่างเคร่งครัดไม่ใช่ว่าเราสั่งปิดสถานบันเทิงก็ยังออกไปนั่งตั้งวงก๊งเหล้ากันอยู่ ถ้ายังไม่ช่วยกัน เรายังไม่อยากเดินไปถึงขั้นห้ามทุกคนออกจากบ้านเด็ดขาด 



รัฐบาล ประชุมครม.ทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นัดประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งได้จัดเตรียมห้องไว้รองรับแล้ว สำนักเลขาธิการนายกฯ ออกประกาศมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 สำหรับสื่อมวลชนที่เข้ามาปฏิบัติงานในทำเนียบรัฐบาล เช่น กำหนดจุดสัมภาษณ์นายกฯ ครม.และผู้บริหาร 3 จุด คือ บริเวณหน้าตึกบัญชาการ ตึกนารีสโมสร และตึกสันติไมตรี ห้ามสื่อมวลชน เดินตาม วิ่งตามหรือรุมล้อม นายกฯ และ ครม. และห้ามสื่อมวลชนเข้าตึกบัญชาการ ตึกสันตีไมตรี ยกเว้นกรณีเชิญเข้าไปทำข่าวเป็นครั้งคราวไป




 

ข่าวทั้งหมด

X