ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันอังคารที่ 24 มีนาคม 2563

24 มีนาคม 2563, 06:09น.



บุคลากรทางการแพทย์ของอินโดฯ เสียชีวิต 6 ราย



          กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย รายงานสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่โควิด-19 ว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอย่างน้อย 579 คน รักษาหายแล้ว 30 คน เสียชีวิตอย่างน้อย 49 ราย ในจำนวนผู้เสียชีวิตรวมบุคลากรการแพทย์อย่างน้อย 6 ราย ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย แถลงแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคน ยกย่องการทุ่มเทแรงกายและแรงใจของบุคลากรด้านสาธารณสุข ในการคัดกรอง ตรวจรักษาและให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้ที่อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังทุกคน แพทย์และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขทุกคน หากปฏิบัติงานอยู่ในเขตที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขจากโรคโควิด-19 จะได้รับเงินสนับสนุนขั้นต่ำเดือนละ 5 ล้านรูเปียห์ (ราว 9,895 บาท)  และสูงสุด 15 ล้านรูเปียห์ ( ราว 29,685 บาท )



          ขณะที่ นายอานิส บาสเวดาน ผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตา สั่งปิดสถานบันเทิงและสถานประกอบการทุกแห่ง เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 มี.ค. และขอความร่วมมือให้ประชาชนทำงานที่บ้าน งดออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น เพื่อหวังชะลอความเร็วในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19



อังกฤษ ให้กองทัพช่วยแจกอุปกรณ์ป้องกันให้บุคลากรทางการแพทย์




          นายแมตต์ แฮนค็อค รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ แถลงว่า กองทัพจะใช้รถบรรทุกขนส่งอุปกรณ์ป้องกันตัวให้บุคลากรทางการแพทย์ ขณะนี้อุปกรณ์หลายล้านชิ้นจัดส่งไปถึงโรงพยาบาล รถฉุกเฉิน แพทย์ สถานดูแลและสถานบริการพยาบาลต่าง ๆ แล้ว หลังจากบุคลากรทางการแพทย์ร้องเรียนว่าขาดแคลน ทางการกำลังดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อสร้างความมั่นใจว่าบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยในการรับมือกับการระบาดนี้จะรู้สึกว่าได้รับการสนับสนุน



         นายบอริส จอห์นสัน นายกฯอังกฤษ ขู่ใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้น เช่น การสั่งห้ามออกนอกบ้าน (ล็อกดาวน์) อย่างเต็มรูปแบบ หากประชาชนยังเพิกเฉยต่อคำเตือนที่ให้เว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ประชาชนได้พบปะกันที่สวนสาธารณะหรือเดินทางไปท่องเที่ยวตามเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่ง ในสัปดาห์นี้ รัฐบาลอังกฤษเตรียมออกพระราชบัญญัติฉุกเฉิน เพื่อให้รัฐสภาพิจารณา ให้รัฐบาลได้มีอำนาจมากขึ้นในการสั่งปิดสถานที่ต่างๆ และควบคุมประชาชนได้มากยิ่งขึ้น



ผลตรวจยืนยัน 'อดีตนายกฯมหาเธร์' และ 'นายกฯแมร์เคิล' ไม่พบเชื้อโควิด-19 



     นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกฯมาเลเซีย เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีผลเป็นลบ แต่ยังคงกักตัวเองอยู่ภายในบ้าน หลังจากที่นายมหาเธร์ ได้สัมผัสกับนักการเมืองที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นายมหาเธร์ กล่าวว่า การอยู่บ้านหลาย ๆ วันเป็นสิ่งที่น่าเบื่อมาก แต่เราจะทำอะไรได้ หากเราไม่ทำเช่นนี้ ไวรัสก็จะแพร่กระจาย และคนจำนวนมากจะเจ็บป่วย เสียชีวิต ดังนั้น อย่าฝ่าฝืนคำสั่งด้วยการออกไปข้างนอก นายมหาเธร์ ขอบคุณผู้ให้บริการด้านสาธารณสุข ตลอดจนตำรวจ และ ทหาร ที่ปฎิบัติหน้าที่ตลอดระยะเวลาการปิดประเทศบางส่วนในช่วงเวลา 2 สัปดาห์นี้



          ด้านนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี สบายดีระหว่างกักตัวเองอยู่ที่บ้าน และกำลังรอผลตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติม หลังผลตรวจครั้งแรกออกมาเป็นลบ ผู้นำหญิงเยอรมนี เฝ้าระวังตัวเองที่บ้านตามมาตรการป้องกันไว้ก่อน หลังจากทราบข่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าแพทย์ส่วนตัวที่ฉีดวัคซีนให้เธอเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ติดเชื้อโควิด-19




ฮ่องกง ยกระดับห้ามนักท่องเที่ยวเข้า รวมทั้งคนที่แวะเปลี่ยนเครื่อง



          นางแคร์รี หล่ำ ผู้ว่าการฮ่องกง สวมหน้ากากอนามัยในการแถลงข่าวว่า จะห้ามนักท่องเที่ยวทุกคนเข้าฮ่องกง14วันเริ่มจากวันพุธ ครอบคลุมถึงผู้มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ มาเก๊าและไต้หวันที่เพิ่งเดินทางมาจากที่อื่นด้วย ขณะเดียวกันทางการเตรียมแก้ไขกฎหมายเพื่อควบคุมการจำหน่ายสุราตามบาร์และร้านอาหารประมาณ 8,600 แห่ง เพราะหลายคนมักถอดหน้ากากอนามัยออกเมื่อไปตามสถานที่เหล่านี้ อีกทั้งยังพูดคุยกันใกล้ชิดขณะดื่มสุรา เพิ่มความเสี่ยงที่จะติดเชื้อและแพร่เชื้อให้กัน ทางการกำลังสำรวจว่าจะดำเนินมาตรการอื่น ๆ แทนการปิดร้านอาหารอย่างสิ้นเชิงเพราะรู้ดีว่าชาวฮ่องกงจำนวนมากไม่ได้ทำอาหารเอง 



          นอกจากนี้ ทางการ กำลังสอบสวน 14 คนที่ละเมิดมาตรการกักตัว ในจำนวนนี้ 5 คนเสี่ยงถูกฟ้องร้องดำเนินคดีด้วย เพราะมีสองคนถอดหรือตัดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ติดตามตัวออก กำไลนี้จะทำงานคู่กับแอปพลิเคชั่นในการติดตามตัวผู้กักตัวดูอาการ



ไต้หวัน ปรับหนักกว่า1ล้านบาทฝืนคำสั่งกักตัว




          ชายชาวไต้หวันคนหนึ่ง ถูกปรับเงินจำนวนมากถึง 1 ล้านเหรียญไต้หวัน (ประมาณ 1 ล้าน 1 แสนบาท) เนื่องจากฝ่าฝืนการกักตนเองในบ้านเพื่อสังเกตอาการโรคโควิด-19 ออกไปเที่ยวสถานบันเทิง นายหู ยู่อี นายกเทศมนตรีกรุงไทเป เปิดเผย ว่าชายชาวไต้หวันรายนี้ต้องกักตนเองอยู่บ้านเป็นเวลา 14 วัน หลังจากเดินทางกลับมาจากประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เมื่อคืนวันอาทิตย์ เขาออกไปเที่ยวสถานบันเทิงและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปตรวจพื้นที่จับกุม และถูกเรียกปรับเงินในอัตราที่สูงที่สุด เนื่องจาก การออกไปเที่ยวกลางคืนถือว่าเป็นการกระทำที่เป็นอันตราย เพราะอยู่ในสถานที่ที่มีประชาชนจำนวนมาก และไม่มีการระบายอากาศที่ดี จึงถูกส่งต่อไปยังศูนย์ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคส่วนกลาง เพื่อปรับเงิน 1 ล้านเหรียญไต้หวัน



รัสเซีย ปรับปรุงระบบติดตามตัวผู้ที่สัมผัสผู้ติดเชื้อ



          นายกฯมีฮาอิล มีชุสติน แห่งรัสเซีย ให้เวลาเจ้าหน้าที่ 5 วัน เพื่อปรับปรุงระบบติดตามบุคคลที่มีการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยใช้ระบบจีพีเอสของโทรศัพท์มือถือ ซึ่งกระทรวงสารสนเทศรัสเซียอธิบายว่า เจ้าหน้าที่จะยึดหลักจากผู้ติดเชื้อก่อน แล้วติดตามย้อนหลังไปตามจีพีเอสว่าเขามีการติดต่อใกล้ชิดกับผู้ใดบ้าง แล้วจะส่งข้อความไปยังบุคคลนั้น เพื่อให้เข้าสู่การกักตัวเพื่อสังเกตอาการ ซึ่งยังมีคำเตือนว่า วิธีการนี้อาจผิดกฎหมาย เพราะเป็นการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล แต่รัฐบาลรัสเซีย ยืนยันว่า เป็นการทำงานที่ถูกต้องเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ทั้งนี้ รัสเซีย มีประกาศชั่วคราวในการห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก ประกาศให้ประชาชนที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรังอยู่แต่ในบ้านพัก หรือย้ายไปพักอยู่ในบ้านพักนอกเมืองหลวง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ




OECD คาดโควิด-19 ฉุดเศรษฐกิจโลกถดถอย




          นายอังเคล กูเรีย เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organization for Economic Co-operation and Development: OECD) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง มากกว่าวิกฤตการณ์ทางการเงินเมื่อปี 2551 และเมื่อเกิดเหตุวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2544  ในส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของนักวิเคราะห์หลายคนที่มองว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจครั้งนี้ จะเป็นรูปตัววี (V) ที่เศรษฐกิจจะตกต่ำลงอย่างรุนแรงในช่วงเวลาเวลาสั้นๆ แล้วจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกหลายประเทศกำลังจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าและจะมีปัญหาอยู่อย่างน้อย 2 ไตรมาสต่อเนื่อง ทำให้เขาคิดว่า เศรษฐกิจโลกน่าจะถดถอยลงเป็นรูปตัวยู (U) มากกว่า คือ เผชิญกับภาวะตกต่ำเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะฟื้นตัว และเขาเห็นว่าโลกสามารถหลีกเลี่ยงตัวแอล (L) หรือภาวะที่เศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวขึ้นเลยได้หากมีการตัดสินใจที่ถูกต้อง



          OECD เสนอ 4 โครงการเพื่อรับมือกับสถานการณ์ ได้แก่ โครงการตรวจหาเชื้อไวรัสฟรี โครงการจัดหาอุปกรณ์อย่างดีให้แพทย์และพยาบาล โครงการแจกเงินช่วยเหลือให้แก่พนักงานและผู้ประกอบการ และสุดท้ายคือโครงการยกเว้นการจ่ายภาษีให้แก่ธุรกิจต่างๆ โดยเมื่อต้นเดือนนี้ OECD ประเมินว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะฉุดอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกลงครึ่งหนึ่ง มาอยู่ที่ร้อยละ 1.5




เฟด เพิ่มวงเงิน 300,000 ล้านดอลลาร์ฯ สู้โควิด-19




          นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือคิวอี โดยไม่จำกัดวงเงิน เพื่อเสริมความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจในการสู้กับไวรัสโควิด-19 และประสิทธิภาพในการใช้นโยบายการเงิน ท่ามกลางสภาวะทางการเงินและเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ภาครัฐและภาคเอกชนจึงต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการดำเนินนโยบายเชิงรุกเพื่อจำกัดจำนวนผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะตกงาน และรายได้ที่จะหายไป



          นอกจากนี้ เฟด จะเพิ่มวงเงิน 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับโครงการปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ และโครงการสินเชื่อที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันที่มีการใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตทางการเงิน ทั้งนี้ ในการทำคิวอี เฟดจะเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีตราสารจำนองเชิงพาณิชย์ค้ำประกันด้วย ซึ่งหมายถึงการขยายการทำคิวอีไปถึงกลุ่มตราสารเชิงพาณิชย์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นการดำเนินการแทรกแซงตลาดครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยดำเนินการ



ดาวโจนส์ร่วงลง 580 จุด หลังจากแพ็คเกจสู้โควิด-19 ไม่ผ่านสภาคองเกรส    



          ดาวโจนส์ ลดลง 582.05 จุด หรือร้อยละ 3.04  ปิดที่ 18,591.93 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 67.52 จุด หรือร้อยละ 2.93 ปิดที่ 2,237.40 จุด แนสแดค ลดลง 18.84 จุด หรือร้อยละ 0.27 ปิดที่ 6,860.67 จุด เกิดแรงเทขายอย่างหนักในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังวุฒิสภาไม่มีความคืบหน้าในการผ่านแพ็คเกจช่วยเหลือ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่เมืองต่างๆของสหรัฐฯออกคำสั่งให้ภาคธุรกิจเกือบทั้งหมดปิดดำเนินการ พยายามจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19



          ความเคลื่อนไหวในการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด ส่งผลให้ราคาทองคำในวันจันทร์ ทำสถิติเป็นบวกวันเดียวเป็นดอลลาร์ สูงสุดเท่าที่เคยมีมา ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 83 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,567.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์



         ราคาน้ำมัน ปิดตลาดวันจันทร์ ขยับขึ้นเล็กน้อย นักลงทุนติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ ปิดที่ 23.36 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวด ส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 5 เซนต์  ปิดที่ 27.03 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล



แฟ้มภาพ 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X