ปธน.สหรัฐฯ ส่งทหารคุมสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่ชาวอเมริกัน 1ใน3 ต้องอยู่บ้าน

          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ทวีตข้อความ ระบุว่า ไม่สามารถปล่อยให้การรักษาโรคโควิด-19 สร้างปัญหาที่เลวร้ายมากกว่าตัวปัญหาเอง และหลังจากสิ้นสุด 15 วัน จะมีการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางที่จะดำเนินการต่อไป โดยเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีมีคำสั่งให้ทหารจากกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติ เข้าร่วมปฏิบัติการในการควบคุมการแพร่ระบาดในรัฐแคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก และวอชิงตัน ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

          ด้านรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ เปิดเผยว่ามีชาวอเมริกันมากถึง 254,000 คนเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยร้อยละ 10 มีผลตรวจเป็นบวก และทำให้สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมีผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 35,224 คน เสียชีวิตมากกว่า 471 ราย รองจากจีน และอิตาลี หลายมลรัฐของสหรัฐฯ จึงทยอยออกประกาศให้ประชาชนกักตนเองอยู่ในบ้าน เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อทั้งนิวยอร์ก, แคลิฟอร์เนีย, อิลลินอยส์, คอนเนตทิคัต และนิวเจอร์ซีย์ โดยล่าสุดคือ รัฐโอไฮโอ ลุยเซียนาและเดลาแวร์ ซึ่งเฉพาะในกลุ่มนี้มีจำนวนประมาณ 101 ล้านคน หรือ 1ใน3

          โดยรัฐโอไฮโอ มีผู้ติดเชื้อ 351 คน เสียชีวิต 3 ราย, ลุยเซียนา มีผู้ป่วย 837 คน เสียชีวิต 20 รายส่วนใหญ่คือผู้สูงอายุ นายไมค์ ดีไวน์ ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ กล่าวว่า เราอยู่ในห้วงเวลาที่สำคัญของการทำสงคราม สิ่งที่ควรทำในเวลานี้คือการทำให้ผู้รุกรานรายนี้ขยายตัวช้าลง เพื่อให้ระบบการดูแลสุขภาพมีเวลามากพอในการรักษาผู้ติดเชื้อ จึงออกประกาศให้พลเมืองกักตนเองในที่พักตั้งแต่คืนวันนี้ไปจนถึงวันที่ 6 เมษายน

          ส่วนที่รัฐเคนตั๊กกี้ มีประกาศปิดร้านค้าและธุรกิจอื่น ยกเว้นร้านอาหาร แต่ไม่ได้สั่งให้ประชาชนต้องอยู่ในที่พัก ขณะที่นายรอน พอล สมาชิกวุฒิสภา จากพรรครีพับลิกันเคนตั๊กกี้ เป็นสมาชิกวุฒิสภาคนแรกที่เปิดเผยว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยก่อนหน้านี้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรีพับลิกันอย่างน้อย 2 คนที่เปิดเผยว่าติดเชื้อ 

....