*ทดลองลต.แบบเยอรมนี/ยุบสตช./Uberแท็กซี่ข้ามชาติ*

03 ธันวาคม 2557, 07:59น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30น.



+++เข้มข้นและต้องติดตาม  กมธ.ปฏิรูปกฎหมายชงยุบ "สตช.-ก.ตร." ตั้งเป็น "สภากิจการตำรวจแห่งชาติ" กระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่น ดันประชาชนมีส่วนร่วมแต่งตั้งโยกย้าย หวังป้องกันการเมืองล้วงลูก นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ ปรับโครงสร้างสำนักตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทั้งระบบเพื่อแก้ปัญหาของสตช. โดยเฉพาะสำนักงานสตช.และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จะต้องไม่มีอีกต่อไป เพื่อให้องค์กรตำรวจมีความอิสระทั้งในเรื่องของการแต่งตั้ง โยกย้าย ปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง



+++นอกจากนี้ ให้จัดโครงสร้างองค์กรตำรวจ โดยให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับงานด้านใดให้โอนไปขึ้นตรงกับหน่วยงานนั้น เช่น ตำรวจป่าไม้ ไปอยู่กับกรมป่าไม้ ตำรวจรถไฟ ไปอยู่การรถไฟแห่งประเทศไทย และตำรวจท่องเที่ยว ให้ไปอยู่กับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นต้น ทั้งนี้การปรับโครงสร้างทั้งหมดไม่ได้เป็นการลดทอนอำนาจโครงสร้างตำรวจ เพราะอำนาจหน้าที่ของตำรวจยังคงอยู่ ทั้งหมดเป็นเพียงตุ๊กตาเบื้องต้นที่จะนำเสนอต่อ สปช. ซึ่งจะประชุมในวันที่ 15-17 ธ.ค.จากนั้นก็เสนอต่อกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ



+++ด้านนายสุจิต บุญบงการ ประธานคณะอนุกมธ.พิจารณากรอบการจัดทำรัฐธรรมนูญว่าด้วยแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ รัฐสภา และคณะรัฐมนตรี เปิดเผยถึงข้อเสนอว่า 1.ที่มาของนายกฯ และคณะรัฐมนตรี คือให้ใช้รูปแบบที่มาเหมือนกับรัฐธรรมนูญ 2550 คือ ให้สภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้ที่ลงคะแนนเลือกนายกฯ โดยมีเหตุผลคือระบบการเลือกนายกฯ ในรูปแบบสภาฯ ไม่ก่อให้เกิดปัญหา แต่ปัจจัยที่มีปัญหาคือผู้มีอำนาจใช้อำนาจทางบริหารที่ไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย ดังนั้นหากยึดรูปแบบเดิมและแก้ไขในส่วนที่มีข้อบกพร่องจะเป็นการแก้ปัญหาได้มากกว่า   สำหรับที่มาของ ส.ส.นั้นให้ใช้ระบบเลือกตั้งแบบเขต และบัญชีรายชื่อ โดยเสนอจำนวนส.ส.อยู่ที่ 350 คน ทั้งนี้อาจจะปรับลดจากจำนวนดังกล่าวได้ แต่ต้องไม่เพิ่มมากไปกว่านี้ โดยมีเหตุผลคือเพื่อให้การทำงานของส.ส.มีความคล่องตัว และสามารถตอบสนอง เข้าถึงประชาชนได้อย่างมีศักยภาพ



++++ขณะที่ที่มาของส.ว.จะยังคง 2 ระบบ คือ มาจากการเลือกตั้ง และ สรรหาตามวิชาชีพที่มีกรอบการสรรหาอย่างกว้าง ทั้งนี้ในรูปแบบสรรหานั้นอาจต้องมีการโหวตจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องหรือประชาชนด้วย ส่วนหน้าที่ถอดถอนของส.ว.นั้น ให้คงไว้เช่นเดิม แต่รูปแบบทั้งหมดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้



+++วันนี้ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ นัดหารือกันต่อในวันนี้ หลังจากคณะอนุกรรมาธิการ 7 คณะ ได้กำหนดกรอบการยกร่างรัฐธรรมนูญในเบื้องต้น ซึ่งต้องติดตามว่าเนื้อหาในหมวดใดจะมีความชัดเจนมากขึ้น เริ่มเวลา 10.00 น. ห้องประชุมงบประมาณ อาคารรัฐสภา



++++ส่วนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอให้การเลือกตั้งในประเทศไทย เหมือนระบบการเลือกตั้งแบบประเทศเยอรมนี ว่า ได้ศึกษาระบบการเลือกตั้งของเยอรมันซึ่งมีข้อดี และข้อเสีย ซึ่งข้อดีทุกคะแนนจะมีความหมาย แต่ระบบเลือกตั้งของบ้านเราคะแนนบางส่วนไม่มีความหมาย และทุกภาคส่วนมีโอกาสที่จะรับเลือก ส่วนข้อเสียจะมีความยุ่งยากเพราะเราชินกับการเลือกตั้งที่คนได้คะแนนเป็นอันดับ 1 จะได้รับเลือก แต่ระบบของเยอรมันคนที่ได้ลำดับที่ 2 อาจจะได้รับเลือก ซึ่งทำความเข้าใจเรื่องนี้ยาก ระบบของเยอรมันจะทำให้พรรคใหญ่เสียเปรียบแต่ต้องแบ่งความได้เปรียบให้แก่พรรคเล็ก ถ้าคิดว่าสามารถทนความยุ่งยากตรงนี้ได้ ระบบเยอรมันถือว่าน่าสนใจ ส่วนหากมีการตกลงว่าจะมีการใช้ระบบเลือกตั้งแบบนี้ก็ยังมีเวลาอีก 1 ปีที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจ อาจจะทดลองใช้ 1-2 พื้นที่ก่อนก็ได้



+++ข้อเสนอนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมืองว่า เรื่องดังกล่าวสภาก็ดำเนินการเองได้ เพราะไม่ใช้กฎหมายการเงิน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้มาจากรัฐบาล แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่มีความเห็นไม่สอดคล้องกัน สภาอาจดำเนินการยากขึ้น ก็ต้องรอให้ถึงจุดนั้นก่อนแล้วค่อยมาคิดกันอีกครั้ง ตอนนี้ยังฟังไม่ได้ศัพท์ว่าข้อเสนอดังกล่าวเป็นข้อเสนอในการปฏิรูปหรือเป็นข้อเสนอในการยกร่างรัฐธรรมนูญ ก็โยนหินมาหนึ่งก้อนถามทาง ช่วยโยนหินมาหลายๆ ก้อนหน่อย จะได้เข้าใจว่าจะนิรโทษใคร ทำเรื่องนี้เมื่อใด พร้อมทั้งเหตุผลในการเสนอว่าเป็นอย่างไร ถ้าเสนออย่างเป็นระบบก็อาจจะฟังขึ้นก็ได้"



++++คนใช้รถเฮรัฐประกาศลดราคาน้ำมันเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ลง 50 สต. ส่วนดีเซลลด40 สต. มีผลแล้ว แต่รถติดก๊าซ แอลพีจีขึ้นอีก 1.03 บาท-เอ็นจีวี 1 บาทต่อกก. ส่งผลให้ราคาเอ็นจีวีหน้าสถานีบริการ สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล จะขึ้นจาก 11.50 บาทต่อกก. เป็น 12.50 บาทต่อกก. ส่วนเอ็นจีวีในรถบริการสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ รถโดยสารสาธารณะ รถตู้สาธารณะ จะปรับขึ้นจาก 8.50 บาทต่อกก. เป็น 9.50 บาทต่อกก. นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขต กทม. กล่าวว่า เตรียมเสนอให้กระทรวงคมนาคม พิจารณาทบทวนการขึ้นค่าโดยสารมิเตอร์ใหม่ โดยขอเพิ่มจากเดิมที่กระทรวงคมนาคมพิจารณาให้ขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ เป็น 20 เปอร์เซ็นต์ เพราะหลังจาก กบง.เห็นชอบให้ปรับราคาเอ็นจีวีและแอลพีจี กก.ละ 1 บาท ทำให้ต้นทุนการขับรถเพิ่มขึ้นกก.ละ 50 สตางค์



+++พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวถึงโครงการรถไฟและรถเมล์ฟรีที่มีการต่ออายุตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.57 ไปสิ้นสุด 31 ม.ค.58 ว่า จะเสนอให้ ครม.พิจารณาปรับรูปแบบการให้บริการฟรีใหม่ เพื่อให้บริการเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มที่สมควรได้รับการสนับสนุนเท่านั้น โดยมีผลบังคับใช้ได้ทันวันที่ 1 ก.พ. 58



+++ปัญหา แท็กซี่ อูเบอร์   นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงกรณีการให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารในลักษณะรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น ด้วยรถยนต์บริการและรถยนต์ส่วนบุคคล หรือ อูเบอร์ แท็กซี่(Uber Taxi) ว่า เป็นการให้บริการที่ผิดกฎหมาย กรมการขนส่งทางบกได้มีการส่งหนังสือเชิญ Uber Taxi มาหาทางออกร่วมกันในวันที่ 9 ธ.ค.2557 นี้ เวลา 13.00 น. ณ อาคาร 1 ชั้น 3 กรมการขนส่งทางบก ซึ่งเบื้องต้นแนวทางการหารือคือต้องการให้บริษัทผู้ให้บริการดังกล่าวเข้าสู่ระบบรถโดยสารสาธารณะตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 และในระหว่างนี้หากพบว่า ยังให้บริการก็จะดำเนินการก็จะดำเนินการทางกฎหมายเช่นเดียวกัน จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นผู้ให้บริการอูเบอร์แท็กซี่ 3-4 ราย พบว่าบางรายเป็นกลุ่มทุนข้ามชาติที่กรรมการบริษัทเป็นบุคคลที่มีสัญชาติต่างประเทศ ขณะที่ กรมการขนส่งทางบก เกรงว่าบริการดังกล่าวอาจก่อปัญหาลุกลาม โดยอาจมีกลุ่มทุนต่างประเทศเข้าเช่าซื้อรถจำนวนมาก หลังจากนั้นจะว่าจ้างให้ผู้ขับรถที่เป็นคนไทยออกมาวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสาร นอกจากจะก่อปัญหาเพิ่มรถในระบบจำนวนมากจนกระทบแท็กซี่ที่จดทะเบียนแล้วยังทำให้ควบคุมในเรื่องความปลอดภัยได้ยากหากเกิดปัญหาอาชญากรรม เพราะไม่อาจตรวจสอบและหาผู้กระทำผิดได้ ซึ่งผู้ประกอบการแท็กซี่ในระบบทุกรายได้ขึ้นทะเบียนประวัติตรวจสอบอาชญากรรมและทำบันทึกข้อมูลส่วนตัว ขณะที่อูเบอร์แท็กซี่ ไม่สามารถสืบค้นข้อมูลได้



+++ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ได้แก่ ส.อ.ท. สภาหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย (กกร.) เปิดเผยภายหลังการประชุมกกร.ว่า หากรัฐบาลจะปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จากปัจจุบัน 7 เปอร์เซ็นต์ เป็น 8 เปอร์เซ็นต์ ในปลายปี 58 รัฐบาลจะต้องพิจารณาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในปี 58 โดยไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ของปีหน้า ต้องขยายตัวได้มากกว่า 4 เปอร์เซ็นต์ แต่หากจีดีพีขยายตัวต่ำกว่า 4 เปอร์ เซ็นต์ แล้วยังปรับขึ้นแวต จะส่งผลต่อกำลังซื้อประชาชน และซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจ



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีการพิจารณา ได้คุยกับนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว ซึ่งบอกว่าพูดไปตามหลักการ ที่ต้องมีการทยอยขึ้นไปจนถึง 10% ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโดยในปี 2558 คาดหวังว่าจะดีขึ้น ฉะนั้น เป็นเพียงการพูดด้วยหลักการ



++++ประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เป็นประธาน รับรายงานว่า  ใน 3 เดือน จะจัดสรรพื้นที่ให้ประชาชนได้จำนวน 5.3 หมื่นไร่ ใน 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ เชียงใหม่ มุกดาหาร นครพนม และชุมพร โดยจะมีประชาชนได้รับประโยชน์ประมาณ 1 หมื่นราย ซึ่งในการพิจารณาให้ที่ทำกินนั้น กระทรวงมหาดไทยจะพิจารณาในหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งภูมิลำเนา รายได้ต่อปี ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อปี เป็นต้น ซึ่งถือเป็นของขวัญแก่ประชาชนยกแรก



+++กระทรวงการต่างประเทศ จัดสัมมนาหัวข้อ "On the Path to Reform" เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติ และ ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์จากต่างประเทศ ที่โรงแรมแชงกรีลา เวลา 13.00-17.45 น. โดยมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ร่วมด้วย



+++13.00 น. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) จัดเสวนาพิเศษหัวข้อ "ทัพนักลงทุนไทย...กับการก้าวไกลรุกตลาดกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม" ณ นิด้า



++++การต่อสู้ที่ยาวนาน จะจบหรือยัง หลัง ศาลปกครองสูงสุด สั่งให้รืออาคาร รร.  ดิ เอทัส บางกอก สูง 24 ชั้น และอาคาร ดิ เอทัส เรสซิเดนซ์ สูง 18 ชั้น ภายในซอยร่วมฤดี ถ.พระราม 1 ภายใน 60 วัน เนื่องจากการก่อสร้างอาคารดังกล่าว ขัดต่อกฎหมาย หลังจากมีผู้ยื่นฟ้องร้อง 24 ราย เมื่อปี 2551 นายสิทธิชัย ท้วมสกนธ์ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน เปิดเผยว่า ทาง กทม.กำลังรอคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด  คาดว่าทางเจ้าของอาคารจะอุทธรณ์คำสั่งการรื้อถอนกับ กทม. หากภายใน 60 วันเจ้าของอาคารไม่ปฏิบัติตาม กทม.ก็สามารถเข้าไปดำเนินการแทน โดยจะมีการเก็บค่าใช้จ่ายกับเจ้าของอาคารต่อไป   

ข่าวทั้งหมด

X