*ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
++++ทำเนียบขาวของสหรัฐฯแถลงว่า ผู้นำสหรัฐฯและกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ได้หารือเรื่องมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม จากกรณีการทำลายเสถียรภาพในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนและการผนวกอ่าวไครเมียเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่ง การคุยโทรศัพท์ เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐฯและนายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรปเห็นพ้องว่า ไม่ควรจะผ่อนคลายการคว่ำบาตรรัสเซีย จนกว่ารัสเซียจะปฏิบัติตามคำมั่นที่ได้ลงนามไว้ในกรุงมินสก์ของเบลารุส ผู้นำทั้งสองได้ร่วมกันประณามรัสเซียกรณีการยึดครองและพยายามจะผนวกอ่าวไครเมียเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่ง
+++นายเอริก โฮลเดอร์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯได้แถลงแผนการเพื่อแก้ปัญหาตำรวจสั่งหยุดรถ ตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องสงสัยเพียงบางกลุ่มเนื่องจากอคติทางเชื้อชาติ เขาพูดเรื่องนี้ที่โบสถ์ของคริสต์จักรเอเบเนเซอร์ แบ็ปติสต์ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจียในวันนี้ หลังเกิดเหตุประท้วงใหญ่กรณีนายดาร์เรน วิลสัน ตำรวจผิวขาวยิงนายไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวดำวัย 18 ปีเสียชีวิตในเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี เมื่อเดือนสิงหาคม ทั้งๆที่ผู้ถูกยิงไม่มีอาวุธ
++++นายริชาร์ด ออตตาเวย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฏรอังกฤษ กล่าวว่าสส.หลายคนของอังกฤษวางแผนจะพูดคุยกับประชาชนในฮ่องกงผ่านระบบวีดีโอลิ๊งค์ หลังรัฐบาลจีนปฏิเสธที่จะออกวีซาให้พวกเขาเยือนฮ่องกง เขากล่าวว่า การตัดสินใจของรัฐบาลจีนเท่ากับพูดว่าแถลงการณ์ร่วมเรื่องการส่งคืนเกาะฮ่องกง ตามที่รัฐบาลจีนและอังกฤษลงนามไว้เมื่อ 30 ปีก่อนเป็นโมฆะ และอาจจะกระทบต่อการเจรจาต่างๆที่ทั้งสองประเทศได้ลงนามไว้ นายออตตาเวย์ยังได้เรียกร้องให้รัฐสภาอังกฤษจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือเรื่องมาตรการตอบโต้ของรัฐบาลอังกฤษ
+++นายเบ็นนี ไท่ ผู้นำองค์กรประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่เรียกว่า กลุ่มอ็อคคิวพาย เซนทรัลของฮ่องกง กล่าวว่า 3 ผู้ก่อตั้งองค์กรฯคือ นายไท่, นายชาน คินหมั่น และนายชู อิ้วหมิงได้แถลงข่าวทั้งน้ำตาในวันนี้ว่า จะยอมเข้ามอบตัวต่อตำรวจในวันพรุ่งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้ปฏิบัติตามหลักนิติธรรมและหลักการแห่งสันติและความรัก พร้อมทั้งเรียกร้องให้กลุ่มนักศึกษาที่ยังคงปักหลักอยู่ตามท้องถนนยอมสลายการประท้วง การเข้ามอบตัวต่อตำรวจไม่ใช่การกระทำของคนขี้ขลาด หากแต่เป็นความกล้าหาญที่จะทำตามคำมั่นที่ให้ไว้ และเป็นการประณามรัฐบาลที่ไร้หัวใจอยู่อย่างเงียบๆ การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังผู้ประท้วงหลายร้อยคนปะทะกับตำรวจเมื่อค่ำวันอาทิตย์ มีผู้บาดเจ็บหลายคน นับเป็นค่ำคืนที่เกิดเหตุปะทะรุนแรงที่สุดอีกครั้งหนึ่งนับตั้งแต่เริ่มมีการประท้วงเมื่อกว่า 2 เดือนก่อน ด้านผู้ประท้วงหนุ่มสาวหลายคนซึ่งยังชุมนุมอยู่ ได้บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ข้อเรียกร้องของพวกเขายังไม่ทันบรรลุเลย แต่พวกแกนนำออกคิวพาย เซนทรัล กลับจะไปมอบตัวกับตำรวจแล้ว จึงเหมือนกับว่าพวกเขาทอดทิ้งผู้ที่ยังชุมนุมประท้วงอยู่
+++เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล สั่งปลด ยาอีร์ ลาปิด รัฐมนตรีคลังและนางซิปี ลิฟนี รัฐมนตรียุติธรรม 2 หัวหน้าพรรคฝ่ายกลาง ออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีคลังและรัฐมนตรียุติธรรมในวันอังคาร(2ธ.ค.) ส่งสัญญาณว่ากำลังแยกทางกับพรรคร่วมรัฐบาลที่เต็มไปด้วยความแตกแยก และเปิดทางสำหรับจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด ในถ้อยแถลงจากสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่านายเนทันยาฮู จะยุบสภาเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งทั่วไปเร็วขึ้น จากเดิมที่เขาจะหมดวาระในปี 2017 รัฐบาลของนายเนทันยาฮู ซึ่งเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศเมื่อปีที่แล้ว ต้องเผชิญกับข้อติดขัดต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็นการผ่านงบประมาณ 2015 และเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพลเมืองอาหรับเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติ ต่อกรณีออกกฎหมายประกาศเจตนาว่าประเทศเป็นของประชาชนชาวยิวเท่านั้น
+++องค์การอนามัยโลกในวันอังคาร(2ธ.ค.) ประกาศให้สเปน เป็นชาติล่าสุดที่ปลอดจากเชื้ออีโบลา หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลา 1 เดือนครึ่งโดยไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ นับตั้งแต่พยาบาลเทเรซา โรมีโร มีผลตรวจเชื้อไวรัสมรณะเป็นลบโรมีโร เป็นบุคคลแรกที่ติดเชื้ออีโบลานอกแอฟริกา นายแอเดรียน ฮิลล์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเจนเนอร์ มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ดของอังกฤษ กล่าวว่า วัคซีน 2 ตัวที่อยู่ระหว่างการทดสอบทางคลินิกกับอาสาสมัคร 80 คนในประเทศมาลีและอาสาสมัครอีกกว่า 200 คนทั่วโลกปรากฏผลเป็นที่น่าพอใจและอาจจะถูกนำไปใช้ป้องกันโรคอีโบลาในแถบแอฟริกาตะวันตก พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้ในช่วงต้นปีหน้า เขากล่าวเรื่องนี้ต่อที่ประชุมนักภูมิคุ้มกันวิทยาชาวแอฟริกาในกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ก่อนหน้านี้ สถาบันฯได้เริ่มต้นการทดสอบวัคซีนนั้นเมื่อเดือนกันยายนและองค์การอนามัยโลก(ดับเบิลยูเอชโอ)ระบุว่าจะอนุมัติให้ใช้วัคซีนนั้นทันทีที่ผ่านการตรวจสอบว่ามีประสิทธิภาพและความปลอดภัย
++++ราคาน้ำมันกลับมาร่วงหนักอีกครั้งในวันอังคาร(2ธ.ค.) หลังรัฐบาลอิรักและชนปกครองตนเองชาวเคิร์ด บรรลุข้อตกลงที่จะนำมาซึ่งการเพิ่มส่งออกเชื้อเพลิงของประเทศท่ามกลางอุปทานที่ล้นตลาดอยู่แล้ว สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 2.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.88 อดลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
++++ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ปิดบวกแรงในวันอังคาร(2ธ.ค.) โดยดาวโจนส์ ทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่ จากตัวเลขการใช้จ่ายภาคก่อสร้างที่สูงขึ้น เช่นเดียวกับข้อมูลที่สดใสของภาครถยนต์และยอดขายในวัน "ไซเบอร์ มันเดย์" ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 102.75 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,879.55 จุด ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลราว 50 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 13.11 จุด (0.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,066.55 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 28.46 จุด (0.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,755.81 จุด
+++ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ทำให้ราคาทองคำในวานนี้(2ธ.ค.) ร่วงลงหนัก กลับมาต่ำกว่าระดับ 1,200 ดอลลาร์อีกครั้ง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 18.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,199.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++นายรอน เรดแมน โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอชซีอาร์)กล่าวว่า คนงานการกุศลหวั่นวิตกว่าจะเกิดวิกฤติด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่สำหรับผู้อพยพซีเรียหลายล้านคนในตะวันออกกลาง หลังปัญหาข้อจำกัดด้านงบประมาณส่งผลให้โครงการอาหารโลก(ดับเบิลยูเอฟพี)ขององค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ต้องลดการช่วยเหลือด้านอาหารสำหรับผู้อพยพราว 1,700,000 คน ขณะนี้องค์กรการกุศลหลายแห่ง รวมถึงดับเบิลยูเอฟพี อยู่ระหว่างการเตรียมการช่วยเหลือด้านอาหารแก่ผู้อพยพในช่วงฤดูหนาวที่จะมาถึงในเร็วๆนี้ โดยเฉพาะในศูนย์อพยพของเลบานอน จอร์แดน ตุรกีและอียิปต์ แต่จากข้อจำกัดด้านงบประมาณอาจจะส่งผลให้ดับเบิลยูเอฟพี ลดการช่วยเหลือด้านอาหารลงจากเดิมคือ 2,100 แคลอรี่ต่อวันต่อคน
+++กองทัพอากาศนอร์เวย์เผยแพร่คลิป เครื่องบินขับไล่รัสเซียพุ่งเข้ามาตัดหน้าหนึ่งในอากาศยาน 2 ลำของพวกเขาที่กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่บนท้องฟ้า เหตุระทึกที่อาจเป็นหายนะด้านการบิน ที่มีสิทธิ์ทวีความตึงเครียดระหว่างมอสโกกับนาโต้และโหมกระพือเชื้อไฟแห่งสงครามโลกครั้งที่ 3 ในวิดีโอที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์(30พ.ย.) พบเห็นเครื่องบินขับไล่ MiG-31 ของรัสเซียลำหนึ่ง จู่ๆก็บินตัดหน้าหนึ่งในอากาศยาน 2 ลำของนอร์เวย์ จากนั้นในเวลาต่อมานาโต้ ก็ส่งเครื่องรบขึ้นไปสกัดเครื่องบินขับไล่ของรัสเซียลำนี้ในน่านฟ้าสากล ทางเหนือของนอร์เวย์ แม้กองทัพรัสเซียมีสิทธิ์ที่ฝึกบินด้านการใช้อาวุธและเพิ่มพูนทักษะแก่นักบิน แต่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับต่างๆด้านการบินระหว่างประเทศ "มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ที่เครื่องบินรัสเซียก่อสถานการณ์อันตรายในน่านฟ้ายุโรป"