โฆษกกระทรวงสาธารณสุขในฉนวน กาซ่า เปิดเผยวันนี้ (22 มี.ค.) ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สองคนแรกในกาซ่า เป็นชายชาวปาเลสไตน์ทั้งคู่ วัย 30 ปี และ 40 ปี เพิ่งเดินทางกลับมาจากปากีสถาน เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ขณะที่ทางการกาซ่า ระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์มากกว่า 2,700 คน ที่กักตัวที่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากอียิปต์ อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การระบาดในกาซ่าอาจเป็นภัยพิบัติได้ ขณะที่กาซ่าประสบปัญหาอัตราความยากจนอยู่ในระดับสูง ประชากรหนาแน่น และระบบสาธารณสุขอ่อนแอ
ส่วนที่เลบานอน นายกรัฐมนตรีฮัสซัน ดิอับ ของเลบานอน ประกาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์ วานนี้ (21 มี.ค.) โดยขอให้กองทัพและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ช่วยดูแลให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน เพื่อชะลอการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 230 คนในเลบานอน ขณะเดียวกัน เตือนว่าจำนวนผู้ติดเชื้ออาจพุ่งสูงขึ้น หากชาวเลบานอนยังคงฝ่าฝืนกฎระเบียบเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม จึงขอให้ชาวเลบานอนงดออกจากบ้าน ยกเว้นมีเหตุจำเป็น และงดการรวมตัวของคนหมู่มาก
ทั้งนี้ รัฐบาลเลบานอนมีคำสั่งให้ประชาชนทุกคนอยู่แต่ในบ้าน และปิดทำการธุรกิจร้านค้าที่ไม่จำเป็น ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม รวมทั้งปิดทำการท่าอากาศยาน ขณะที่การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นวิกฤติล่าสุดที่รัฐบาลกำลังเผชิญ หลังจากที่ประสบปัญหาทางการเงิน และความไม่พอใจของประชาชนที่แผ่ขยายเป็นวงกว้าง
ส่วนที่ยูกันดา กระทรวงสาธารณสุขประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ของกระทรวง ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คนแรกของประเทศ เป็นชายชาวยูกันดาวัย 36 ปี เดินทางด้วยสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ จากดูไบ มาถึงยูกันดา วานนี้ เช่นเดียวกับเอริเทรีย กระทรวงข้อมูลรายงานการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คนแรก เป็นชายชาวเอริเทรียวัย 39 ปี แต่เป็นผู้พักอาศัยถาวรในนอร์เวย์ ซึ่งเดินทางด้วยสายการบินฟลายดูไบ กลับมาที่เอริเทรีย เมื่อวานนี้
...