WHO เป็นห่วงไทย ยอดผู้ป่วยโควิด-19 พุ่ง 'อนุทิน' ย้ำ ไม่ปกปิดตัวเลขผู้ป่วย

20 มีนาคม 2563, 17:39น.


          สถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลก ในวันนี้  นายแดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก(WHO) ประจำประเทศไทย เข้าหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในไทย โดยใช้เวลาหารือร่วม 1 ชั่วโมง



          หลังหารือนายแดเนียล ฝากคนไทยทำตาม 4 มาตรการสำคัญที่จะช่วยลดการติดโรค ประกอบด้วย



-การรักษาระยะห่าง ระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และชมคณะรัฐมนตรีไทยที่ใช้มาตรการนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ดี



-หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์



-เลี่ยงการนำมือไปสัมผัสรอบใบหน้า ทั้งจมูก, ตา, ปาก



-การจามหรือไอ ให้ใช้ข้อศอกด้านในหรือกระดาษชำระปิดปากและจมูก เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย



         ส่วนการรับมือของไทย นายแดเนียล ชมว่ากระทรวงสาธารณสุขไทยรับมือได้ดีเยี่ยม เห็นได้จากการเป็นประเทศแรกของโลกไม่นับรวมจีนที่สามารถวินิจฉัยผู้ป่วยโรคนี้ได้ ซึ่งทำให้เชื้อไม่แพร่กระจาย แต่ก็กังวลกับสถานการณ์ผู้ป่วยในไทยตอนนี้ ที่ 5 วันที่ผ่านมาจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เหตุที่กังวล เนื่องจากกลัวว่าเชื้อโรคโควิด-19 จะแพร่กระจายไปในชุมชน ส่งผลให้ติดตามตัวผู้มีเชื้อได้ยาก โดยองค์การอนามัยโลกจะประสานกับรัฐบาลไทยและประเทศสมาชิกเพื่อรับมือการระบาดอย่างใกล้ชิด



         ด้านนายอนุทิน ระบุว่า สิ่งสำคัญตอนนี้ คือ ต้องเฝ้าระวังการระบาด โดยเฉพาะการระบาดจากสนามมวยและสถานบันเทิงที่ยอดผู้ป่วยจากสองที่นี้กำลังพุ่งสูงในช่วง 3-4 วัน แต่ยืนยันว่ายิ่งเจอผู้ป่วยมากยิ่งดี เพราะแสดงว่าสามารถหาตัวผู้ป่วยเจอได้ ย้ำว่ารัฐบาลไม่มีการปกปิดตัวเลขผู้ป่วย ขอให้ทุกคนเลิกพูดเรื่องนี้ ส่วนที่มีประชาชนใน 3 จังหวัดภาคใต้ไปอยู่รวมกัน ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวง หลังกลับมาจากมาเลเซีย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปจัดการ ย้ำว่าทุกคนต้องกักตัวเอง 14 วัน ถ้าผู้ใดป่วยต้องรีบรักษา เช่นเดียวกับคนไทยที่จะเดินทางกลับมาจากอินโดนีเซีย ก็ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์นี้ด้วย ส่วนที่มีโรงพยาบาลในภาคใต้ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ หากเป็นโรงพยาบาลเอกชนประสานมาของบได้



         นายอนุทิน ยังระบุว่า ตัวเองไม่มีอำนาจออกพระราชกำหนดฉุกเฉินเพื่อมาควบคุมสถานการณ์ และก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ เพราะตัวเองหวังให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติเหมือนเดิมที่สุด พร้อมขอให้ประชาชนช่วยกันสอดส่องผู้ที่อาจจะเครียดจากการแพร่ระบาดของโรคจนมีปัญหาสุขภาพจิตตามมา ซึ่งกระทรวงมีเจ้าหน้าที่กรมสุขภาพจิตคอยช่วยอีกทาง และขอให้สังคมช่วยกันประณามผู้ที่จงใจแพร่เชื้อหรือไม่คำนึงถึงส่วนรวม อย่างกรณีผู้ชายใช้น้ำลายตัวเองไปป้ายตามบีทีเอส หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย และควรส่งมาตรวจกับกรมสุขภาพจิต หากตัวเองมีอำนาจจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด



         นายอนุทิน ยังตำหนิสื่อแห่งหนึ่ง ที่เสนอข่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขปฏิเสธรับการช่วยเหลือจากนายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา ที่เสนอให้อุปกรณ์การแพทย์ต่าง ๆ กับไทย โดยย้ำว่ารัฐบาลได้ขอให้นายแจ็ค หม่า ช่วยพูดกับบริษัทในประเทศจีน ให้ขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ ให้ไทย และตัวเองก็ประสานกับทุกหน่วยงานในทุกช่องทางเพื่อให้ได้อุปกรณ์ทางการแพทย์มาใช้รักษาผู้ป่วยจนตอนนี้มีเพียงพอ

ข่าวทั้งหมด

X