รองนายกฯ-รมว.สธ. ยังไม่ใช้ระบบ 'Lockdown' ย้ำขอความร่วมมือ อยู่ในบ้าน รับมือโควิด-19 ระบาด

          ข้อเสนอจากการประชุมติดตามสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำเนียบรัฐบาล ในที่ประชุมมีรายงานระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับมาตรการให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน หรือที่เรียกว่า "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" ของคณะแพทย์ไปพิจารณา เพื่อสกัดการระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทย หลังคณะแพทย์รายงานข้อมูลว่า หากใช้มาตรการนี้จะมีจำนวนผู้ป่วยรวม 24,269 คน แบ่งเป็น

•นอนโรงพยาบาล 3,640 คน

•อยู่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน 1,213 คน

•และเสียชีวิต 485 ราย

          แต่ถ้ายังใช้มาตรการแบบเดิมภายใน 30 วัน คาดว่าไทยจะมีผู้ป่วยสูงถึง 351,948 คน แบ่งเป็น

•อยู่โรงพยาบาล 52,792 คน

•อยู่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน 17,597 คน

•และเสียชีวิต 7,039 ราย

           นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า คนที่มีอำนาจตัดสินใจคือตัวเองและรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่เห็นด้วยกับทั้งแนวคิดให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านและแนวคิดการปิดประเทศ โดยสั่งให้กระทรวงไปคิดแนวทางอื่นที่ดีที่สุดมาแทน และรัฐบาลก็ยังไม่คิดถึงสองมาตรการนี้ เพราะสถานการณ์ในไทยยังไม่รุนแรงถึงขั้นต้องจำกัดให้คนอยู่แต่ในบ้านหรือปิดประเทศ เพราะเชื่อว่า ทำไม่ได้ที่จะให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน เพราะทุกคนมีธุระต้องออกมาทำทุกวัน แล้วตอนนี้รัฐบาลก็มีมาตรการลดภาวะเสี่ยงการระบาดหลายมาตรการ ทั้งการปิดสถานที่เสี่ยงต่าง ๆ เช่น โรงเรียน, สถานบันเทิง และ สปา, เพิ่มเงื่อนไขให้คนต่างชาติเดินทางเข้าไทยยากขึ้น ทั้งต้องมีใบรับรองแพทย์, มีประกันตามที่กำหนด และต้องถูกกักตัว 14 วันเมื่อถึงไทย ซึ่งเชื่อว่าทำให้เหลือต่างชาติเข้าไทยไม่ถึงร้อยละ 5

          นายอนุทิน ยังตอบคำถามว่าหากอนาคตสถานการณ์โควิด-19 ในไทย เลวร้ายลงจะมีการพิจารณาปิดประเทศหรือให้คนอยู่แต่ในบ้านหรือไม่ว่า หากทุกคนร่วมมือและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข มั่นใจว่าอนาคตสถานการณ์จะไม่เลวร้าย

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังบอกว่า ใครที่ทำงานที่บ้านตามมาตรการให้ทำงานที่บ้าน (Work at home) ได้ ก็ควรทำ เนื่องจากจะทำให้คนออกจากบ้านน้อยลง ส่งผลให้โอกาสการระบาดน้อยลงตาม เพราะเชื้อโรคมากับคน ซึ่งตัวเองหวังให้ทุกคนทำตามมาตรการนี้ แม้คงไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ ขณะเดียวกันได้จัดอบรมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ให้ไปสร้างความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ซึ่งตอนนี้เข้าถึงประชาชนแล้วกว่า 1,600,000 ครัวเรือน ส่วนที่มีข่าวว่าอสม.ได้รับแจ้งว่ามีประชาชนไม่สบาย แต่พอไปถึงบ้านกลับไม่ยอมออกมาพบ เจ้าหน้าที่อสม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องลงพื้นที่ทำความเข้าใจให้มากกว่าเดิม แต่ก็ถือว่าดีที่อยู่บ้านเฝ้าระวัง เพราะจะทำให้เชื้อโรคไม่แพร่กระจายออกนอกบ้าน