ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan โดยระบุว่า แต่ละประเทศต่างก็มีมาตรการป้องกันโรคที่เหมาะสมกับประเทศของตน และไม่มั่นใจว่าการปิดเมืองจะทำได้จริงหรือไม่ การต่อสู้กับไวรัสจึงเหมือนกับการวิ่งมาราธอน โดยมีเนื้อหาดังนี้
"การควบคุมโรคระบาด โควิด 19
แต่ละประเทศจะต้องมีมาตรการในการป้องกันควบคุม ตามบริบทของตัวเอง ที่เหมาะสม
เราต้องยอมรับว่า โควิด-19 ไม่สามารถที่จะกวาดล้างให้ได้หมดไป เพราะได้มีการระบาดใหญ่ทั่วโลกแล้ว
โควิด-19 นี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน จนกว่าเราจะมีวัคซีนในการป้องกัน
ในแต่ละประเทศ จะต้องมีวิธีการควบคุม และลดการสูญเสีย ต่อมนุษย์ ทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งทางด้านเศรษฐกิจสังคม
การชะลอการระบาดของโรค โควิด -19 เป็นวิธีหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ เพื่อให้ระบบสาธารณสุขของเรารองรับการดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
จนกว่าเราจะพร้อมเรื่องยารักษาโรค หรือมีวัคซีนในการป้องกัน
ขณะนี้เรื่องยารักษาโรค เราก็มองเห็นหนทางบ้างแล้ว แต่วัคซีนยังคงอีกนานพอสมควร
ประเทศจีนพร้อมที่จะช่วยเรา ในหลายมาตรการรวมทั้งยารักษาโรค favipiravir
บริบทในการควบคุมป้องกัน ลดจำนวนการระบาด ในแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน
ประเทศจีนกับประเทศทางตะวันตก ที่มีเสรีประชาธิปไตย จึงมีความแตกต่างกัน
ไม่มั่นใจว่าการปิดเมือง จะทำได้จริงอย่างประเทศจีนหรือไม่ ในประเทศประชาธิปไตย และเป็นไปไม่ได้ที่เราจะปิดเมืองหรือประเทศเป็นระยะเวลายาวนาน
การวางแผนของประเทศจึงต้องหาจุดสมดุลที่ดีที่สุด ในการต่อสู้ระยะยาว ด้วยกำลังทรัพยากรที่มีอยู่
ปัจจุบันเรารู้แล้วว่า 80% ของโรคนี้ไม่รุนแรง และมีจำนวนหนึ่งไม่มีอาการด้วยซ้ำ จะเป็นผู้แพร่กระจายโรค
ผู้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว
ผู้สูงอายุควรอยู่บ้าน และผู้ที่ออกนอกบ้าน ลูกหลานจะต้องเข้าใจว่าเราอาจจะนำเชื้อมาสู่ท่านได้
การควบคุมป้องกันโรค ในขณะนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องป้องกัน ให้มีผู้ป่วยเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ระบบสาธารณสุข ของเรารองรับได้
ผู้ที่เป็นแล้วก็จะมีภูมิต้านทานขึ้น ไม่เป็นซ้ำอีก จนกว่าจะมีระดับภูมิคุ้มกันกลุ่มของประชาชนสูงถึงระดับหนึ่ง (เป็นแล้วไปจำนวนหนึ่ง) โรคจึงหยุดระบาด
เราต้องการวัคซีนมาเสริมภูมิต้านทานอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ได้ภูมิคุ้มกันกลุ่มเพิ่มขึ้นได้อีก
การต่อสู้กับโรคระบาดจึงต้องใช้ระยะเวลายาวนาน การต่อสู้จึงต้องมีขั้นตอน แบบค่อยเป็นค่อยไป ตามความเหมาะสม และบริบทของประเทศไทย
การรบครั้งนี้จึงเปรียบเทียบเหมือนการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่วิ่ง 100 เมตร จะหมดแรงเสียก่อน
...