คณะแพทย์ไทย แนะจัดสรรโรงพยาบาลให้ผู้ป่วยวิกฤตโควิด-19 ย้ำต้องร่วมมือกันสกัดการแพร่ระบาด

19 มีนาคม 2563, 15:25น.


           มาตรการรับมือโรคโควิด-19 ในไทย นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลีนิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล มีความเห็นตรงกันว่า มาตรการของรัฐบาลเดินมาถูกทาง และรับมือกับโรคได้ดี



          นพ.ยง ระบุว่า โรคนี้จะอยู่อีกนาน สิ่งที่เป็นความหวังคือยาและวัคซีนที่รักษาโรคได้โดยตรง พร้อมให้ความเข้าใจว่า ร้อยละ 80 ของผู้ป่วยโรคนี้มีอาการน้อยมาก ร้อยละ10 กว่าจะเป็นผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาล และมีแค่ร้อยละ 4 ที่จะเป็นผู้ป่วยวิกฤต ส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีโรคประจำตัวและคนกลุ่มชราซึ่งเป็นป่วยกลุ่มเสี่ยงเสียชีวิต ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเสียชีวิตต่ำมาก คาดว่าอนาคต 3-4 เดือน ผู้ป่วยโรคนี้อาจแค่มารับยาแล้วกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ โรงพยาบาลจะจัดพื้นที่ให้เฉพาะผู้ป่วยที่อาการหนักเท่านั้น



          ด้านนพ.อุดม เชื่อมั่นว่า ไทยจะไม่เข้าสู่การระบาดระยะที่ 3 หากประชาชนให้ความร่วมมือ โดยระยะหลังที่มีผู้ป่วยเพิ่ม เพราะไม่ยอมมาพบแพทย์และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข จึงขอความร่วมมือจากประชาชนให้ปฏิบัติตามคำแนะนำ พร้อมระบุว่าสิ่งสำคัญขณะนี้คือ การห้ามรวมตัวกันเกิน 50 คน และลดการเดินทาง ยืนยันว่า ภาครัฐรับมือได้ดี เห็นได้จาก 2 เดือนแรกของการระบาดที่พบผู้ป่วยน้อย



           ส่วนนพ.ปิยะสกล เสริมว่า ผู้ที่อยู่ในสถานที่ที่มีการปิดไป 14 วัน ต้องไม่เดินทางไปพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น วัยรุ่นไม่ควรไปเที่ยวสถานบันเทิงหรือสังสรรค์ ซึ่งจะช่วยลดการระบาดได้ มั่นใจว่า รัฐบาลจะคุมสถานการณ์ได้ แต่จากนี้ต้องมีมาตรการที่ชัดเจนและทุกฝ่ายต้องบูรณาการการทำงานเป็นหนึ่งเดียว

ข่าวทั้งหมด

X