ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม 2563

‘ทรัมป์’ เผย ‘เราต้องชนะศัตรูที่มองไม่เห็น’ เตรียมออกกฎหมายเร่งผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์

          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ทวีตข้อความว่า สหรัฐฯจะปิดชายแดนที่ติดกับแคนาดาเป็นการชั่วคราว สำหรับการเดินทางที่ไม่มีความจำเป็น เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นายทรัมป์ ยืนยันว่า การปิดชายแดนดังกล่าวเป็นการยินยอมของทั้งสองฝ่าย และจะไม่กระทบต่อการค้า นายทรัมป์ ระบุว่า "เราจะเอาชนะศัตรูที่มองไม่เห็นนี้" วิกฤตที่เกิดขึ้นขยายวงกว้างทำให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีในช่วงเวลาแห่งสงคราม

-ผู้นำสหรัฐฯ จะประกาศใช้กฎหมาย ในภาวะสงครามฉบับหนึ่ง จะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯเร่งกำลังการผลิตหน้ากากอนามัย, เครื่องช่วยหายใจ, พัดลมระบายอากาศและอุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็น

-เตรียมบังคับใช้กฎหมายอีกฉบับ เปิดทางให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ผลักดันคนต่างด้าวกลับประเทศ เนื่องจาก พยายามข้ามเข้าสู่ชายแดนทางใต้ของสหรัฐฯอย่างผิดกฎหมาย แต่จะไม่มีการปิดชายแดนในพื้นที่นี้

-สหรัฐฯ จะส่งเรือโรงพยาบาลลำหนึ่งไปที่นิวยอร์ก เพื่อช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อ และจะส่งเรือโรงพยาบาลอีกลำเข้าประจำการตามแนวชายฝั่งตะวันตกของประเทศ

         นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ชี้แจงกับสภาคองเกรสว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่ตัวเลขคนว่างงานจะพุ่งสูงถึงร้อยละ 20

          นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ หัวหน้าคณะทำงานด้านโคโรนาไวรัส เรียกร้องชาวอเมริกันชะลอการผ่าตัดที่ไม่เร่งด่วน เพื่อให้โรงพยาบาลดูแลผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเต็มที่ เพราะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น

ชาวอิตาลี ให้กำลังใจกัน ‘อย่ายอมแพ้’ ผู้เสียชีวิตพุ่งไม่หยุด

          จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอิตาลีเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 475 คน  ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมในอิตาลีเพิ่มเป็น 2,978 คน พบผู้ติดเชื้อ 35,713 คน เจ้าหน้าที่เรียกร้องชาวอิตาลี จงศรัทธาและเข้มแข็งไว้ "สิ่งสำคัญคือ อย่ายอมแพ้" นายซิลวิโอ บรูซาเฟอร์โร ผู้อำนวยการสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติอิตาลี แถลงข่าวผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติว่า จะต้องใช้เวลาหลายวันกว่าที่จะเห็นประโยชน์ของมาตรการควบคุมที่ได้ประกาศออกมา เช่น การปิดธุรกิจเกือบทั้งหมดของอิตาลี ห้ามประชาชนรวมตัวกัน บังคับใช้จนถึงวันที่ 25 มีนาคม ขณะที่มาตรการปิดโรงเรียนและอื่นๆ เช่น ห้ามกองเชียร์เข้าร่วมกิจกรรมกีฬา บังคับใช้จนถึงวันที่ 3 เมษายน แต่อาจมีการขยายมาตรการปิดโรงเรียนออกไปอีก

ธนาคารกลางยุโรป เตือน มาตรการปิดประเทศฉุดเศรษฐกิจหดตัว 5%

โกลาหล! คนมาเลเซีย ไม่ยอมอยู่บ้าน เสี่ยงติดเชื้อเพิ่ม  

         หลังจากรัฐบาลมาเลเซีย ใช้มาตรการปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม จนถึงวันที่ 31 มีนาคม มีผลทั่วประเทศ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว 790 คน เสียชีวิต 2 ราย เป็นตัวเลขสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อเกี่ยวข้องกับการเดินทางไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาอิสลาม ทำให้รัฐบาลออกมาตรการดังกล่าว ครอบคลุมเรื่องการห้ามชุมนุมในที่สาธารณะ การประกอบพิธีกรรมทางศาสนา การจัดกิจกรรมด้านกีฬา สังคม หรือวัฒนธรรมทั่วประเทศ พร้อมทั้งออกคำสั่งปิดโรงเรียนและธุรกิจทั้งหมดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เช่นเดียวกับการห้ามชาวมาเลเซียเดินทางออกไปต่างประเทศและห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19

        ความโกลาหลเกิดขึ้นเมื่อประชาชนจำนวนมากเดินทางออกจากเมืองหลวงกลับภูมิลำเนา นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ขอร้องประชาชนให้อยู่ในบ้าน เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อ เนื่องจากประชาชนแทนที่จะอยู่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงติดเชื้อ มีรายงานว่าประชาชนจำนวนมากเดินทางออกจากเมืองหลวงกลับภูมิลำเนา ขณะที่ ร้านอาหารได้รับอนุญาตให้เปิดเฉพาะร้านที่ให้บริการซื้อกลับบ้าน แต่ยังพบเห็นลูกค้าออกไปนั่งกินดื่มอย่างสบาย นอกจากนี้ยังพบเห็นประชาชนออกไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะต่างๆ แม้จะมีคำสั่งปิดสวนสาธารณะ

มีผลเที่ยงคืนนี้! ฮ่องกง ใช้สายรัดข้อมืออิเล็กทรอนิกส์ตามตัวผู้โดยสารขาเข้า

          รัฐบาลฮ่องกง เตรียมใช้สายรัดข้อมืออิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางเข้ามาที่ฮ่องกง เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกักกันตัวเองเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ภายใต้การเฝ้าระวังของแพทย์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 19 มีนาคม เป็นต้นไป

          นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ชี้แจงสาเหตุที่ออกประกาศมาตรการเพิ่มเติมว่า ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 57 คน ในจำนวนนี้มีถึง 50 คน ที่ได้รับเชื้อจากต่างประเทศ หากไม่ใช้มาตรการเข้มงวดตั้งแต่ตอนนี้ ความพยายามในการสกัดโควิด-19 ที่ทำมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า

ลาว ยืนยัน ผลตรวจชาวอังกฤษ และ นศ.ลาวที่กลับจากเวียดนาม ไม่พบติดเชื้อ

          เจ้าหน้าที่สาธารณสุขลาว ยืนยันว่า ชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งที่เดินทางเยือนลาว รวมทั้งนักศึกษาลาวที่เดินทางกลับมาจากการศึกษาในเวียดนาม ไม่พบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชาวอังกฤษ 3 คน เดินทางมาถึงลาว โดยสายการบินเวียดนาม ถูกเจ้าหน้าที่ลาวกักตัวที่โรงแรมในหลวงพระบางเป็นเวลา 14 วัน ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุขลาว กล่าวว่า ผลการตรวจสอบไม่พบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชาวต่างชาติกลุ่มนี้มีแผนเดินทางไปเมืองหลวงพระบาง เชียงขวาง และนครหลวงเวียงจันทน์

          ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังตรวจสุขภาพของนักศึกษาลาว 6 คน ที่ศึกษาอยู่ในเวียดนามและเดินทางไปแขวงจำปาสัก ทั้ง 6 คน มีผลตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นลบ แต่อย่างไรก็ตาม นักศึกษากลุ่มนี้ถูกแยกตัวออกจากครอบครัวเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการป้องกัน

ชายญี่ปุ่นที่ขู่จะแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 เสียชีวิตแล้ว

ชาวบังกลาเทศนับหมื่นคน รวมตัวสวดมนต์ขับไล่โควิด-19

         คนนับหมื่นรวมตัวกันสวดมนต์ขับไล่ไวรัสโควิด-19 ในบังกลาเทศ กิจกรรมที่มีเสียงวิจารณ์กันบนสื่อออนไลน์  

ผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่น เปิดเผยว่า ชาวมุสลิมราว 10,000 คน รวมตัวกันบริเวณที่โล่งกว้างแห่งหนึ่งในเมืองไรปุระ ทางภาคใต้ของบังกลาเทศ ร่วมกันสวดบทกวีบทหนึ่งจากพระคัมภีร์อัลกุรอ่าน หวังให้ไวรัสโควิด-19 หมดไป ผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่น ยืนยันว่า ฝ่ายที่จัดการสวดมนต์ ไม่ได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ก่อน ฝ่ายจัดงานอ้างว่ามีผู้เข้าร่วมสวดมนต์ครั้งนี้มากถึง 25,000 คน 

          ภาพถ่ายของการรวมตัวถูกแชร์อย่างกว้างขวางบนสื่อออนไลน์ เนื่องจากมีเสียงตำหนิการรวมตัวของคนจำนวนมากในครั้งนี้ ทั้งที่ทางการได้สั่งปิดโรงเรียนต่างๆและขอให้ชาวบ้านหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันของคนกลุ่มใหญ่ ในความพยายามสกัดกั้นการแพร่ระบาด ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19ในบังกลาเทศ ประเทศที่มีประชากร 168 ล้านคน อยู่ที่ 14 คน

CR:BBC