ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 18 มีนาคม 2563

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 18 มีนาคม  2563

เตรียมยา-รพ.เฉพาะทุกภาค รับสถานการณ์โควิด-19ระยะที่ 3 กองทัพบกประชุมเตรียมความพร้อมรับมือพรุ่งนี้

          การมอบนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 วันที่ 18 มี.ค.ได้สั่งเตรียมพร้อมรับมือ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดลุกลามไปสู่สถานการณ์ที่รุนแรงเข้าสู่ระยะที่ 3 ให้เตรียมยาฟาวิพิลาเวียร์ (ซึ่งเป็นตัวยาต้านไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 จากญี่ปุ่น) ไว้ให้พร้อมรองรับกับจำนวนผู้ป่วยในระยะ 3 และให้จัดตั้งโรงพยาบาลเฉพาะโรคในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยให้กระทรวงสาธารณสุข และกองทัพ รวมถึงภาคเอกชน ปรับโรงพยาบาลขนาดกลาง ให้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะโรคให้เร็วที่สุด

          โดยวันที่ 19 มี.ค.กองทัพ และกระทรวงสาธารณสุข จะประชุมซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเพื่อให้พร้อมรองรับกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ภายในกระทรวงกลาโหม และในวันที่ 23 มี.ค.นายกฯจะเป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล จากเดิมที่จัดที่ตึกภักดีบดินทร์ ทั้งนี้เพื่อปรับรูปแบบห้องประชุมให้ได้มาตรฐานตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข คือจะต้องนั่งห่างกัน 1 เมตรขึ้นไป 

ทำความสะอาดกระทรวงการคลังพรุ่งนี้ เลื่อนประชุมร่วมภาครัฐ-เอกชน

          รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ติดตาม นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง มีอาการเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 และได้เข้ารับการตรวจแล้ว ซึ่งผลการตรวจจะชัดเจนว่า เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ในวันที่ 19 มี.ค.2563

          เบื้องต้นในวันที่ 19 มี.ค.2563 กระทรวงการคลังจะฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ที่ชั้น 3-4 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นชั้นห้องทำงานของ รมว.การคลัง รมช.การคลัง รวมทั้งคณะทำงานรัฐมนตรี และห้องทำงานของปลัดกระทรวงการคลัง

           รวมทั้งเลื่อนการประชุมคณะกรรมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ครั้งที่ 1/2563 ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในช่วงเช้าวันที่ 19 มี.ค. ซึ่งมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพร้อมนายอุตตม ออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยเป็นการแจ้งแบบกระทันหัน และไม่แจ้งสาเหตุ

เตรียมประกาศเพิ่มอีก 10 ประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้าไทย

            นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าภายในวันนี้ (18 มี.ค.) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)ลงนามในประกาศ เรื่องแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศเกี่ยวกับการให้บริการจากท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 2 เพิ่มเติม ซึ่งประกาศดังกล่าวจะเป็นมาตรการเพิ่มเติม เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ได้มีการประกาศผู้โดยสาร ที่เดินทางมาจาก4ประเทศ+2เขตบริหารพิเศษต้องปฏิบัติตามที่รัฐบาลไทยกำหนด แล้วพบว่ามีผู้โดยสารบางกลุ่มที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ไม่ยอมเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงที่ประกาศไป และปรับการเดินทางอ้อมไปทางอื่น ดังนั้นจึงมีการประกาศเพิ่มเติม ซึ่งเมื่อประกาศแล้วจะมีผลบังคับหลังประกาศไปแล้ว 48 ชม.

          นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ประกาศ กพท.ดังกล่าวจะเพิ่มประเทศกลุ่มเสี่ยงอีก 10 ประเทศเพิ่มขึ้นประกอบไปด้วย สเปน ฝรั่งเศส เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ ญี่ปุ่น นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก และ สหรัฐอเมริกา หากประกาศออกมาจะทำให้มีประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของประกาศ กพท.รวมทั้งสิ้น 14 ประเทศ +2 เขตบริหารพิเศษ

          ก่อนหน้านี้ กพท. ได้ประกาศกรณีผู้เดินทางมาจาก 4 ประเทศ+2 เขตบริหารพิเศษ ประกอบด้วย สาธารณรัฐเกาหลี, สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงเขตบริหารพิเศษมาเก๊า และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง, สาธารณรัฐอิตาลี และสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ต้องได้รับการกักตัว และอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อตามที่รัฐบาลไทยกำหนด

          โดยผู้โดยสารที่เดินทางมาจาก 10 ประเทศกลุ่มเสี่ยง จะต้องทำการคัดกรองผู้โดยสาร โดยในเวลาแสดงตัวเพื่อออกบัตรขึ้นเครื่อง (เช็กอิน) ผู้โดยสารต้องแสดงใบรับรองแพทย์ เพื่อยืนยันว่าผู้โดยสารไม่มีความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีอายุใบรับรองแพทย์ไม่เกิน 72 หรือ 3 วันก่อนการเดินทาง และก่อนเดินทางผู้โดยสารจะต้องกักตัวเองก่อนเดินทาง 14 วัน และหากผู้โดยสารไม่สามารถแสดงใบรับรองแพทย์ได้ ให้งดการออกบัตรขึ้นเครื่องให้แก่ผู้โดยสาร,และเมื่อตรวจสอบใบรับรองแพทย์ และออกบัตรขึ้นเครื่องให้ผู้โดยสารแล้ว ให้ผู้โดยสารกรอกข้อมูลและยื่นต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศที่สนามบินปลายทาง

หุ้นไทยปิดตลาดกลับมาบวกได้สวนกระแสตลาดหุ้นเอเชีย

          ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,048.15 จุด เพิ่มขึ้น 12.98จุด มูลค่าการซื้อขาย  59,186.45 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปิดบวกสวนทางภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ลบเฉลี่ยลงร้อยละ 4  หลังตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงลึกมาก่อนหน้านี้ ด้านนายสมคิด  จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่า  ในการประชุมครม.วันที่ 24 มี.ค. กระทรวงการคลัง จะเสนอมาตรการเพิ่มเติมในเรื่องการดูแลภาคประชาชน และสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  และเตรียมพิจารณาเรื่องกองทุนพยุงหุ้นทำให้นักลงทุนมีความหวังเพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐให้ความสำคัญด้านตลาดหุ้น

หุ้นเอเชียปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

           ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ต่ำกว่าระดับ 17,000 เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นปัจจัยถ่วงตลาดลงหลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงเช้า ดัชนีนิกเกอิร่วงลง 284.98 จุด ปิดที่ 16,726.55 จุด

           ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลบ 50.88 จุด แตะที่ 2,728.76 จุด

           ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดปรับตัวลงเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน แตะระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนสกุลเงินวอนยังอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ลดลง 81.24 จุด หรือ 4.86% ปิดที่ 1,591.20 จุด ทำสถิติร่วงลงหลุดระดับ 1,600 เป็นครั้งแรก และแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. 2553

           ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ดัชนีฮั่งเส็งร่วงลง 971.91 จุด ปิดวันนี้ที่ 22,291.82 จุด

ผบ.ทบ. สั่งทหารทำความสะอาด ล้างทางเท้า-ถนนทั้ง 50 เขตใน กทม.

          พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ หน่วยขึ้นตรงกองทัพบกที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 1 หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ และกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก โดยสั่งการเพิ่มมาตรการตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 มีจุดคัดกรองภายใน บก.ทบ. พร้อมทั้งให้แต่ละหน่วยทหารพิจารณาตามความเหมาะสม วางมาตรการเส้นทางเข้าพื้นที่ทหาร ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบถามและบันทึกข้อมูลกำลังพลและครอบครัว ตั้งแต่เวลา 20.00 - 05.00 น. ของทุกวัน เพื่อให้สามารถตรวจสอบสืบค้นย้อนหลังได้ หากมีการสัมผัสหรือใกล้ชิดกับเชื้อโควิด-19

          ขณะเดียวกัน ให้สนับสนุนภารกิจรัฐบาลในการต่อสู้กับโควิด-19 และช่วยประชาชนป้องกันโควิด-19 ตามพื้นที่ต่างๆ ด้วยการจัดกำลังพล รถยนต์บรรทุกน้ำผสมสารฆ่าเชื้อล้างสิ่งปนเปื้อนบนทางเท้า บนถนนรอบกรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขต ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 19-31 มี.ค. ตั้งแต่เวลา 01.00 น. - 05.00 น. สำหรับพื้นที่ของหน่วยที่รับผิดชอบ ดังนี้

          1. กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1รอ.) เขตทวีวัฒนา, เขตตลิ่งชัน, เขตบางซื่อ, เขตราชเทวี, เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, เขตพระนคร, เขตดุสิต, เขตสัมพันธวงศ์, เขตพญาไท, เขตห้วยขวาง และเขตดินแดง

          2. กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) เขตสาทร, เขตบางรัก, เขตปทุมวัน, เขตบางนา, เขตพระโขนง, เขตสวนหลวง, เขตวัฒนา, เขตคลองเตย, เขตยานนาวา, เขตบางคอแหลม และเขตคลองสาน

          3. กองพลพัฒนาที่ 1 (พล.พัฒนา 1) เขตบางขุนเทียน, เขตบางบอน, เขตทุ่งครุ, เขตราษฎร์บูรณะ, เขตจอมทอง, เขตธนบุรี, เขตภาษีเจริญ, เขตบางแค และเขตหนองแขม

          4. มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) เขตวังทองหลาง, เขตบางกะปิ, เขตบึงกุ่ม, เขตสะพานสูง และเขตประเวศ

          5. กองร้อยกองบัญชาการทัพภาคที่ 1 (ร้อย บก.ทภ.1) ร้อย บก.ทน.ที่ 1, ส.พัน.21 ทภ.1 อาทิ เขตบางพลัด, เขตบางกอกน้อย และเขตบางกอกใหญ่

          6. หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก (นปอ.) เขตดอนเมือง, เขตหลักสี่, เขตสายไหม, เขตคันนายาว, เขตคลองสามวา, เขตมีนบุรี, เขตลาดกระบัง และเขตหนองจอก

          7. กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก (วศ.ทบ.) เขตบางเขน, เขตลาดพร้าว และเขตจตุจักร

การบินไทย ตั้ง จักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล รองประธานกก.คนที่ 2 นั่ง รักษาการแทนดีดี การบินไทย   

         ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทการบินไทย จำกัด มหาชน  มีมติแต่งตั้งนายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการคนที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่แทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.63 เป็นต้นไป

ปิดสวนสัตว์ 14 วัน ป้องกันไวรัสโควิด-19

          นายสุริยา แสงพงค์ รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ กล่าวว่า องค์การสวนสัตว์ ขอปิดบริการสวนสัตว์ในสังกัดทั่วประเทศชั่วคราว เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันนี้ 18 มีนาคม – 31 มีนาคม 2563 ได้แก่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา สวนสัตว์อุบลราชธานี สวนสัตว์ขอนแก่น และโครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์

          มาตรการองค์การสวนสัตว์ ได้กำหนดให้สำนักงานส่วนกลาง และสวนสัตว์ทั่วประเทศ ตั้งศูนย์ป้องกัน และเฝ้าระวังภัยจากโรคโควิด-19 โดยมีประธานคณะทำงานทั้งในส่วนกลาง และสวนสัตว์ทั่วประเทศ ให้ติดตามและเฝ้าระวัง โดยให้รายงานสถานการณ์มายังสำนักงานส่วนกลางทุกวัน เพื่อองค์การสวนสัตว์ จะรายงานต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อไป

มาเลเซีย เข้าสู่ระยะสามของการแพร่ระบาดโควิด-19

          นายนูร์ ฮิชัม อับดุลลาห์ อธิบดีกรมอนามัยมาเลเซียระบุว่า มีโอกาสน้อยมากที่จะตัดห่วงโซ่การระบาดของโควิด-19 ลงได้ ทางเลือกที่มีอยู่ในขณะนี้คือต้องไม่ล้มเหลว หากคนในประเทศยังคงมีทัศนคติเรื่องการไม่ใส่ใจ สถานการณ์การระบาดอาจเข้าสู่ระยะสาม ซึ่งจะมีความรุนแรงยิ่งกว่าสึนามิถล่มเสียอีก  มาเลเซียประกาศจำกัดการเดินทางเป็นเวลา 2 สัปดาห์เริ่มตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตเพราะโควิด-19 แล้ว 2 คน หนึ่งในนั้นร่วมในการประชุมใหญ่ทางศาสนาอิสลามเมื่อปลายเดือนก่อนที่มีคนติดเชื้อเกือบ 2 ใน 3 ของผู้ป่วย 673 คน ทั้งประทศ ผู้เข้าร่วมประชุมหลายพันคนกำลังรอตรวจหาเชื้ออยู่ 

         ส่วนบรรยากาศในกรุงกัวลาลัมเปอร์วันนี้ผู้คนบางตา ทั้งที่ปกติแล้วการจราจรติดขัดและผู้คนแออัด ร้านกาแฟ ร้านอาหารบางแห่งยังเปิดอยู่ แต่ให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านเท่านั้น ซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่กำหนดช่องทางพิเศษสำหรับลูกค้าสูงอายุและคนพิการ จำกัดปริมาณการซื้อสินค้าจำเป็นและอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ ขณะที่นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยาสซิน เรียกร้องประชาชนอย่าแตกตื่นแห่กักตุนสินค้า ยืนยันมีสินค้าจำเป็นเพียงพอสำหรับประชากรทั้งประเทศ 32 ล้านคน

รัฐบาลสหรัฐฯขอให้สภาคองเกรสพิจารณาอนุมัติงบฉุกเฉิน 45,800 ล้านดอลลาร์สกัดโรคโควิด-19

           นายรัสเซล วอต รักษาการผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการและงบประมาณประจำทำเนียบขาวของสหรัฐฯได้ส่งจดหมาย พร้อมเอกสารแนบท้ายรวม 118 หน้าถึงสภาคองเกรสสหรัฐฯ ขอให้พิจารณาอนุมัติงบประมาณฉุกเฉินเพิ่มเติม 45,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ งบประมาณนี้เพิ่มเติมจากงบฉุกเฉินเดิมรวม 8,300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมสภาคองเกรสและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

          นายวอต ระบุในจดหมายว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯในขณะนี้ ทำให้รัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติม พร้อมทั้งระดมเจ้าหน้าที่จากกระทรวงทบวงกรมต่างๆมาร่วมทำงานเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้มีประสิทธิภาพและเต็มกำลังความสามารถ ขณะเดียวกันรัฐบาลสหรัฐฯได้เสนอให้ที่ประชุมสภาคองเกรสพิจารณาอนุมัติงบกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับสภาคองเกรส ทั้งนี้สหรัฐฯพบผู้ป่วย 6,524 คน มีผู้ป่วยครบทั้ง 50 รัฐ และผู้เสียชีวิต 116 ราย