ลุ้นน้ำมันลดต่อสัปดาห์นี้หลังเจรจายังไม่จบ
สัปดาห์นี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก และมีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศจะลดลงอีก เนื่องจากข้อขัดแย้งระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปก และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกที่นำโดยรัสเซีย ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ ทำให้ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก ยังเพิ่มกำลังการผลิต และลดราคาต่อไป
ฝ่ายวิจัยธุรกิจธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ผลจากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงอย่างรวดเร็ว จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจไทย โดยในด้านบวก จะทำให้ไทยซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิ ประหยัดเงินในการนำเข้าน้ำมันดิบได้บางส่วน โดยในแต่ละปีไทยนำเข้าน้ำมันดิบเกือบ 7 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการก็จะมีต้นทุนการผลิตลดลง โดยเฉพาะต้นทุนค่าขนส่ง ขณะที่ผู้บริโภคก็จะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น จากรายจ่ายด้านพลังงานที่ลดลง ซึ่งจะหนุนให้อุปสงค์ในประเทศกระเตื้องขึ้น
แต่ในด้านลบ ราคาน้ำมันที่ลดลงอาจบั่นทอนการส่งออกสินค้าและบริการของไทย ที่พึ่งพาตลาดโอเปก และรัสเซีย ทั้งจะทำให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันถูกกดดันต่อเนื่องโดยเฉพาะยางพารา
สอท.ชี้ 12 กลุ่มอาการหนัก หากโควิด-19 ลากยาวถึงปีหน้า
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่า ขณะนี้มี นักเศรษฐศาสตร์หลายคน ได้คาดการณ์ตรงกันว่า ผลกระทบจากการระบาดโรคโควิด-19 จะลากยาวจนถึงปีหน้า เนื่องจากการที่มีผู้ป่วยมากกว่า 1 แสนคนมากกว่า 120 ประเทศแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ยังไม่มีหน่วยงานไหนสามารถประเมินได้ว่า แต่ละประเทศจะควบคุมได้เหมือนกับประเทศจีน หากไทยเข้าสู่ระยะที่ 3 ของการแพร่ระบาดในประเทศ จะกระทบต่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน และหากต้องปิดประเทศ ก็แย่ลงไปอีก จีดีพีอาจติดลบได้ โดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ที่ประกอบด้วย สอท., หอการค้าไทย, สมาคมธนาคารไทย พบว่า มี 12 อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักสุด คือ กลุ่มไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์, เคมี, ชิ้นส่วน และอะไหล่รถยนต์, เครื่องสำอาง, โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม, หัตถกรรมสร้างสรรค์, โรงเลื่อย โรงอบไม้, ไม้อัดไม้บาง, อัญมณีและเครื่องประดับ, เทคโนโลยีชีวภาพ, อาหาร และสมุนไพร เนื่องจากผู้ประกอบการมียอดขายลดลง รวมทั้งยังมีอุปสรรคต่อการส่งออกสินค้าไปยังจีนล่าช้า และต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ยอมรับว่า ภาคเอกชนมีความกังวลมาก
นักวิชาการแนะ คลัง-ธปท. เตรียมพร้อมโรคระบาดระยะที่ 3
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง แนะนำให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย มีการเตรียมรับมือกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และภัยแล้ง ด้วยการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณมากเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นมาตรการทางการเงิน ในช่วงเวลา 1-2 เดือนข้างหน้า หากประเทศไทยเข้าสู่การแพร่ระบาดระยะที่ 3 แล้วไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ จนส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
หอการค้าคาดใช้จ่ายสงกรานต์วูบ 5 หมื่นล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่ามูลค่าการใช้จ่าย หรือเงินสะพัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ลดลงร้อยละ 30-40 จากปีก่อนที่มีมูลค่าใช้จ่าย 135,000 ล้านบาท หรือลดลง 4-5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการยกเลิกหรือลดการจัดงาน เหลือเพียงประเพณีรดน้ำดำหัวและการเล่นน้ำที่อยู่ในวงแคบลง ขณะที่โรคระบาดสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยว เกษตร แรงงานจำนวนมากถูกเลิกจ้างหรือถูกลดเวลาทำงานและโอที ก็จะทำให้มีรายได้ในการจับจ่ายน้อยลง
ทิสโก้ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวร้อยละ 0.8
บลจ.ทิสโก้ ประเมินมาตรการของรัฐในการดูแลเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ไม่ได้มุ่งเน้นด้านการกระตุ้นการใช้จ่ายมากพอที่จะมาชดเชยกับผลกระทบของการแพร่ระบาดได้ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.8 เป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 9 ปี ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ที่ กนง.จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกอย่างน้อยร้อยละ 0.25 หลังจากได้มีการปรับลดลงไปแล้วร้อยละ 0.25 ในการประชุมวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
1 กันยายนเลิกขายแก๊สโซฮอล์91
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) จะออกประกาศกำหนดให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 (เบนซินผสมเอทานอล 20%) เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานของประเทศ และประกาศยกเลิกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ภายในเดือนมิถุนายน นี้ เพื่อยกระดับราคามันสำปะหลังและอ้อย ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเอทานอล หลังจากที่กระทรวงพลังงานประกาศให้น้ำมันดีเซลบี 10 หรือดีเซลผสมบี 100 จำนวน 10% เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานเมื่อ 1 มกราคม 2563 เพื่อสนับสนุนราคาปาล์ม
ปภ.เตือน 63 จังหวัดรับพายุฝน 16-18 มี.ค.
ในระหว่าง 16-18 มีนาคมนี้จะมีพายุถล่ม ฝนตกหนัก-ลมแรง ในบางพื้นที่ นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เปิดเผยว่า เกิดจากหย่อมความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้เกิดพายุฤดูร้อน โดยจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ 63 จังหวัดทั้งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงขอให้หน่วยปฏิบัติในพื้นที่จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ พร้อมจัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต รถปฏิบัติการ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที
...
WHO แนะประเทศต่างๆ เพิ่มงบประมาณด้านสาธารณสุข
...
ปูตินรับข้อเสนอทรัมป์ ทำงานร่วมกับยูเครนเพื่อตกลงสันติภาพ
...
อิหร่านและสหราชอาณาจักร เรียกทูตเข้าชี้แจงกรณีจับกุมสายลับ
...
ข่าวทั้งหมด
