ในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมี วาระสำคัญประกอบด้วยการพิจารณากิจกรรมพิเศษเนื่องใน โอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนม พรรษา 87 พรรษา 5 ธันวาคม 2557
ส่วน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอขยายเวลาชำระหนี้เงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร โครงการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนากลุ่มเกษตรกร
กระทรวงการคลังเสนอขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปี 2558 ของการรถไฟแห่งประเทศไทยและองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กับจะพิจารณารายงานการเบิกจ่ายงบประมาณของกรมที่เบิกจ่ายน้อยที่สุดตามที่กรมบัญชีกลางเสนอ
และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ซึ่งนอกจากการหารือในเรื่องต่างๆ ตามธรรมเนียมแล้ว ยังมีการแนะนำ พล.อ.อักษรา เกิดผล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ในฐานะหัวหน้าทีมพูดคุยสันติสุขฝ่ายไทย โดยในการเจรจานั้นไม่สามารถเร่งรัดกระบวนการต่างๆ ได้
โดยในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนธันวาคมนี้ พล.อ.อักษรา และคณะจะเดินทางไปคุยกับทีมประสานงานของมาเลเซีย โดยมี ดะโต๊ะสรี อาห์หมัด ซัมซามิน ฮาซิม อดีต ผอ.สำนักข่าวกรองมาเลเซีย เป็นหัวหน้าคณะทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการเจรจา และประสานการเปิดเจรจาครั้งแรกในช่วงกลางเดือนมกราคม 2558
วันนี้ยังมีความคืบหน้าของคดี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ซึ่งนายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร จะแถลงผลการตรวจวัตถุและการคัดแยกโบราณวัตถุของกลาง ที่สำนักหอสมุดแห่งชาติ
ส่วน การประชุมของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญในวันนี้ จะพิจารณาข้อเสนอของอนุกรรมาธิการ 10 คณะ โดยมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธานการพิจารณา ซึ่งมีกรอบพิจารณาเบื้องต้น คือ พิจารณาความเป็นไปได้ และต้องเป็นไปตามแนวทางที่วางแนวทางไว้
ด้าน นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานอนุกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญการปฏิรูปและความปรองดอง กล่าวว่า ต้องทำเรื่องการนิรโทษกรรมให้ได้ เพื่อให้คนในประเทศเกิดความปรองดองกัน โดยในวันนี้จะเริ่มพูดคุยกับคณะกมธ.ชุดต่างๆ กับให้คนกลางดำเนินการเรื่องการนิรโทษกรรม เพราะหากรัฐบาลดำเนินการก็อาจทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ และไม่ควรพูดคุยกันมาก เพราะจะให้วนไปมาอาจทำให้ไม่สำเร็จได้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้อยู่ที่จิตใจ หากจิตใจดีในการทำเรื่องนิรโทษกรรมก็จะสำเร็จได้
ส่วน นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ปฏิรูปการเมือง เห็นว่ายังไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องนี้ และเมื่อนายเอนกเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา ก็ปรากฎบรรยากาศความไม่ไว้วางใจจากกลุ่มต่างๆ เกิดขึ้น
ขณะที่ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เห็นด้วยหากจะมีการนิรโทษกรรม แต่ต้องมีการพูดคุยกันในหลักการก่อน และไม่ควรบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
ส่วนเรื่องของการคลัง นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปีงบประมาณ 2558 กระทรวงการคลังจะต้องพิจารณาปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) อย่างน้อยร้อยละ 1 ไปอยู่ที่ร้อยละ 8 เพื่อให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น รองรับรายจ่ายในอนาคต ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราภาษีแวตที่ร้อยละ 1 จะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 6-7 หมื่นล้านบาท
สำหรับการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2558 จะทำได้ตามเป้าหมาย 2,250,000 ล้านบาท โดยในเดือนมกราคม 2558 จะจัดทำงบประมาณปี 2559 ซึ่งคาดว่าจะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นอีก 300,000 ล้านบาท ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพิ่มการดูแลเรื่องสวัสดิการของประชาชน การศึกษาและสาธารณสุข ขณะที่การจัดทำงบประมาณขาดดุล จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.8 ของจีดีพี ยืนยันว่ารัฐบาลยังมีความจำเป็นต้องดำเนินงบประมาณลักษณะขาดดุลอยู่ เนื่องจากยังมีภาระในการจ่ายดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ทั้งภาระดอกเบี้ยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) และดอกเบี้ยจากโครงการรับจำนำข้าว ที่มีภาระขาดทุนสูงถึง 6-7 แสนล้านบาท
*-*