ยอดป่วยโควิด-19 ไทยพุ่งติดเชื้อเพิ่ม 11 คน เพื่อนกลุ่มเดียวกันจัดปาร์ตี้
ไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 11 คนเมื่อวานนี้ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ผู้ป่วยใหม่ทั้ง 11 คนเป็นคนไทย ที่มีประวัติไปเที่ยวสถานบันเทิงกับเพื่อนที่เดินทางมาจากฮ่องกง 1 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 70 คน แพทย์ให้กลับบ้านแล้ว 35 คน รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 34 คนเสียชีวิต 1 ราย
นอกจากนี้ในการสอบสวนโรคเพิ่มเติมพบว่าในกลุ่มผู้ป่วยกลุ่มนี้ มีการเดินทางไปร่วมงานแต่งงานด้วย โดยผลตรวจผู้สัมผัสในงาน ไม่พบผู้ติดเชื้อ การพบผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงเป็นบทเรียนสำคัญ ว่าเมื่อป่วยแล้วไม่กักตัว ทำให้เพื่อน คนใกล้ชิดติดเชื้อไปด้วย
ผู้ว่าฯกทม. ยืนยันผู้ป่วยที่รพ.กลางแข็งแรงดี
ส่วนกรณีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกลาง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ผู้ป่วยมีร่างกายแข็งแรงดี เนื่องจากผู้ป่วยอายุเพียง 21 ปี จึงมีอาการไม่รุนแรง ให้อยู่ ในห้องความดันลบ ดูแลรักษาตามมาตรฐาน
ยังไม่ปิดศูนย์กักกันที่สัตหีบ
เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเพื่อหารือความคืบหน้าในการทำงาน และชี้แจงเรื่องกักกันตามภูมิลำเนา และยังไม่ยุบศูนย์เฝ้าระวังที่ฐานทัพเรือสัตหีบ เพื่อใช้เป็นที่รองรับผู้ที่มีปัญหาในระบบการคัดกรอง และไม่สามารถไปกักกันที่ภูมิลำเนาได้
วันนี้ส่ง 240 คนกลับภูมิลำเนา
โดยในวันนี้ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ การดูแลสุขภาพคนไทยที่เดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้ กองทัพเรือจะส่งคนไทยฯ จำนวน 240 คน กลับภูมิลำเนา โดยจะออกเดินทางจากสัตหีบในเวลา 08.00 น.ไปยังสถานที่ที่แต่ละจังหวัดกำหนดไว้ เพื่อให้สาธารณสุขจังหวัดรับต่อ และกระจายให้แก่สาธารณสุขตำบลไปส่งที่บ้าน และชี้แจงรายละเอียดการปฏิบัติตนต่างๆ
หอการค้าไทย ลดประมาณการณ์เศรษฐกิจ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่าศูนย์พยากรณ์ฯได้ปรับลดประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.8 ลงมาอยู่ที่ 1.1 เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19, ปัญหาภัยแล้ง, ความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบลงทุน และปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยได้รับความเสียหายประมาณ 841,498 ล้านบาท และมีผลต่อแรงงานที่เกี่ยวข้องกว่า 2 ล้าน 3 แสนคนซึ่งมีทั้งถูกเลิกจ้าง ถูกลดเวลาทำงาน การถูกลดชั่วโมงทำงาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้
หุ้นดิ่ง134จุด-ต่ำสุดรอบ8ปี
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวานนี้ปิดตลาดที่ระดับ 1,114.97 จุด ปรับตัวลดลง 134.98 จุด หรือร้อยละ 10.8 ดัชนีอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปีโดยบรรยากาศการซื้อขายตั้งแต่เปิดการซื้อขายภาคเช้า ดัชนีปรับลงทันทีมากกว่า 70 จุด และลดลงเรื่อยๆ จนถึงระดับร้อยละ 10 ซึ่งเป็นระดับที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต้องใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ หรือพักการซื้อขายชั่วคราว 30 นาที แต่เมื่อกลับมาเปิดการซื้อขายใหม่อีกครั้งดัชนีหุ้นก็ยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยในระหว่างวันดัชนีลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,095.37 จุด และสูงสุดที่ 1,187.39 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 101,652 ล้านบาท
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต้องออกแถลงข่าวถึง 2 ครั้งเพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน โดยระบุว่าตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงเป็นผลกระทบจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการก่อนหน้าลดลงไปถึงร้อยละ 6 ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับลดลงในทิศทางเดียวกัน แต่ตลาดหุ้นไทยปรับลงแรงกว่าอื่นหุ้นในภูมิภาค ตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นไทยปรับลงไปแล้วร้อยละ 25-26 มีราคาหุ้นที่ต่ำสุดในรอบ 5 ปีมากถึง 231 ตัว
รองฯสมคิด มอบคลังเร่งตั้งกองทุนพยุงหุ้น
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงการคลังเร่งศึกษาการจัดตั้งกองทุนสร้างเสถียรภาพตลาดทุน หรือกองทุนพยุงหุ้น เพราะแม้ว่าพื้นฐานตลาดหุ้นไทยจะดี แต่สถานการณ์เศรษฐกิจไม่ปกติ โดยเฉพาะการที่สหรัฐฯ ห้ามประเทศในกลุ่มอียูเดินทางเข้าสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งกองทุนพยุงหุ้นนี้ จะทำให้ตลาดทุนมั่นใจว่า รัฐบาล กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พร้อมจะดูแล
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่ามีมาตรการดูแลตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีแนวคิดที่จะลดภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุนในตลาดหุ้น หากมีความจำเป็นคลังจะเสนอนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาตรการเพิ่มเติมในทันที
อย.เตือนฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อใส่ตัว ไม่มีประโยชน์
กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปชายฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามร่างกายผู้อื่น โดยระบุว่าเป็นการฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า การพ่นยาฆ่าเชื้อที่ตัวอาจจะไม่ได้ประโยชน์นัก เพราะเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะอยู่ในสารคัดหลั่ง ในจมูก ในน้ำลาย การติดต่อส่วนหนึ่งเกิดจากการไปสัมผัสสารคัดหลั่งที่มีเชื้อโรคแล้วมาถูกที่หน้า ตา จมูก ดังนั้น แม้พ่นเสร็จแต่หากมือยังไปสัมผัสเชื้อโรคแล้วมาถูกหน้าตาก็สามารถติดเชื้อได้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ กินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือ ถ้าอยู่ในที่ที่สามารถล้างมือได้ก็ใช้น้ำและสบู่ก็สามารถฆ่าเชื้อได้ แต่หากไม่มีก็สามารถใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือทำความสะอาดและสวมหน้ากากอนามัย
...
รัสเซียประกาศให้องค์การนิรโทษกรรมสากลเป็นองค์กรไม่พึงปรารถนา
...
สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เผยแพร่ประกาศกรณีแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
...
รัฐบาล แถลง ชะลอดิจิทัลวอลเล็ตไปก่อน จนกว่าสถานการณ์เหมาะสม
...
ข่าวทั้งหมด
