ปธน.สหรัฐฯ ห้ามยุโรปเข้าสหรัฐฯ 30 วัน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ออกประกาศมาตรการห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางจากยุโรปเข้าประเทศเป็นเวลา 30 วันมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ (13 มี.ค.) ยกเว้นนักเดินทางจากสหราชอาณาจักร เพื่อรับมือกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่องค์การอนามัยโลก ประกาศว่าเข้าสู่สถานการณ์เป็นโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก (pandemic) โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 126,000 คน และเสียชีวิตกว่า 4,600 รายทั่วโลก เฉพาะวันพุธวันเดียวมีผู้ติดเชื้อใหม่เกือบ 7,000 คน
นอกจากนี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังประกาศกองทุนฉุกเฉินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และความช่วยเหลือทางการเงินให้แก่พนักงานที่ป่วย ถูกกักกัน และผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วย รวมทั้งมาตรการทางการเงินสำหรับธุรกิจและบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส
ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยแพร่คำแนะนำพลเมืองอเมริกันว่าขอให้คิดทบทวนการเดินทางไปต่างประเทศ
องค์การอนามัยโลก เตือนทั่วโลกเตรียมรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก แถลงว่า อิตาลีและอิหร่านเป็นด่านหน้าของการระบาด และมีแนวโน้มที่ประเทศอื่นๆ จะเผชิญสถานการณ์เดียวกันในเร็ว ๆ นี้ และแม้ว่าองค์การฯ จะประกาศว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เป็นโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก แต่นายไมค์ ไรอัน หัวหน้าโครงการฉุกเฉินขององค์การฯ ระบุให้ยังคงมาตรการรับมือเหมือนเดิม
จีนผ่านจุดสูงสุดการระบาด
ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย รายงานว่าเมื่อวันพุธ (11 มี.ค) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 8 คน นับเป็นครั้งแรกที่มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่น้อยกว่า 10 คน จึงให้ผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทาง โดยให้โรงงานอุตสาหกรรมในบางพื้นที่กลับมาเปิดดำเนินการได้
ส่วนพื้นที่นอกมณฑลหูเป่ย พบผู้ป่วยรายใหม่ 7 คน ซึ่งมีอยู่ 6 คนเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ รวมจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศนับตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดปลายปีที่แล้ว 80,793 คน และมีผู้ที่รักษาหายเกือบร้อยละ 80 ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตคือ 3,169 คน นายหมี่ เฟิง โฆษกคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน แถลงว่า จีนไม่มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ในเมืองอื่นๆ ของหูเป่ย ติดต่อกันครบสัปดาห์แล้ว
อิตาลีประกาศมาตรการเพิ่มเติมปิดร้านค้าเพื่อควบคุมโรค
สถานการณ์ในอิตาลียังมีความรุนแรง เมื่อพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่า 2,300 คนในวันพุธ และทำให้มีผู้ป่วยสะสมมากถึง 12,462 คนเสียชีวิต 827 ราย รัฐบาลจึงออกประกาศมาตรการเพิ่มเติมจากการปิดเมืองจำกัดการเดินทางของประชาชน 60 ล้านคนทั่วประเทศ โดยให้ร้านค้าเกือบทั้งหมด ยกเว้นร้านขายยาและขายอาหาร ยุติกิจการชั่วคราวไปถึงวันที่ 25 มีนาคม
สเปนมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
กระทรวงสาธารณสุขสเปน รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยสะสมมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่า 2,000 คนแล้วและจำนวนผู้เสียชีวิตคือ 47 ราย ทำให้สเปนกลายเป็นประเทศที่มีสถานการณ์ร้ายแรงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในยุโรปรองจากประเทศอิตาลี ทางการต้องสั่งปิดโรงเรียนทั้งหมดในกรุงมาดริดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และมีการฉีดฆ่าเชื้อในระบบขนส่งสาธารณะในกรุงมาดริดทุกวัน ทั้งให้งดเที่ยวบินทั้งหมดที่มาจากประเทศอิตาลี
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส ต้องสั่งให้คณะรัฐมนตรีทั้งชุด และเจ้าหน้าที่ของทางการนับร้อยคนไปเข้ารับการตรวจเชื้อ เนื่องจากนางไอรีน มอนเตโร รัฐมนตรีกระทรวงความเสมอภาค ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยสามีของเธอคือนายปาโบล อินเกลเซียส ที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกิจการสังคม ก็ต้องเข้าสู่มาตรการกักกันตัว
ส่วนการการแข่งขันฟุตบอลลีกทั้งหมดต้องเลื่อนการแข่งขันไปอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และนักฟุตบอลทีมเรอัลมาดริดต้องถูกกักกันโรคทั้งทีม เนื่องจากมีนักบาสเกตบอลทีมเรอัลมาดริดรายหนึ่งติดเชื้อ โดยทีมฟุตบอลและบาสเกตบอลซึ่งใช้สถานที่ฝึกซ้อมแห่งเดียวกัน
รัฐมนตรีฝรั่งเศสป่วยติดเชื้อ
ที่ฝรั่งเศส นายฟรองค์ รีสเตอร์ รัฐมนตรีวัฒนธรรม ได้รับการยืนยันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และกักตัวที่บ้านเพื่อเฝ้าสังเกตอาการ โดยเริ่มมีอาการป่วยหลังจากใช้เวลา 2-3 วัน ในสัปดาห์ที่แล้ว ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีผู้ติดเชื้อไวรัสที่สภาก่อนแล้ว 5 คน ได้แก่ สมาชิกรัฐสภา 4 คน ซึ่งคนหนึ่งต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูและอาการทรงตัว อีกคนออกจากโรงพยาบาลแล้ว อีกคนกักตัวอยู่ที่บ้าน นอกจากนี้ พนักงานของร้านอาหารในรัฐสภา มีอาการป่วยด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ปัจจุบันฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีการติดเชื้อไวรัสมากเป็นอันดับสองในยุโรปรองจากอิตาลี โดยมีผู้ติดเชื้อ 2,284 คน และผู้เสียชีวิต 48 ราย
อินเดียปิดประเทศ 1 เดือน
ทางการอินเดียออกประกาศระงับการออกวีซ่าท่องเที่ยว ให้กับชาวต่างชาติทุกประเทศ ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 15 เมษายน ภายหลังจากที่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มเป็น 60 คน สำหรับชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศอินเดียแล้ว ต้องติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง FRRO/FRO ที่ใกล้ที่สุดผ่านระบบ e-FRRO สำหรับการอยู่ต่อ ส่วนผู้ที่กำลังเดินทางมายังอินเดีย รวมถึงชาวอินเดียที่มีประวัติการเดินทางมาจากจีน อิตาลี อิหร่าน เกาหลี ฝรั่งเศส สเปน และเยอรมัน ภายหลัง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ต้องถูกกักตัวอย่างน้อย 14 วัน
ดาวโจนส์ดิ่ง-น้ำมันลง นักลงทุนผวา
ราคาน้ำมันล่วงหน้าในตลาดโลกปรับลดลงอีกครั้ง จากที่อยู่ภายใต้แรงกดดันของสงครามราคาระหว่างซาอุดีอาระเบียกับรัสเซีย ซ้ำเติมด้วยโรคโควิด-19 ที่เข้าสู่สถานการณ์เป็นโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังที่ธนาคารกลางยุโรป หรือ อีซีบี ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพฤหัสบดี (12มี.ค.) ทั้งที่ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าอีซีบีจะปรับลดดอกเบี้ยเพื่อลดผลกระทบจากไวรัสโควิด-19
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 31.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 2.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 33.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ ลดลง 2,352.60 จุด ปิดที่ 21,200.62 จุด
เอสแอนด์พี ลดลง 260.74 จุด ปิดที่ 2,480.64 จุด
แนสแดค ลดลง 750.25 จุด ปิดที่ 7,201.80 จุด
...
รัสเซียประกาศให้องค์การนิรโทษกรรมสากลเป็นองค์กรไม่พึงปรารถนา
...
สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เผยแพร่ประกาศกรณีแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
...
รัฐบาล แถลง ชะลอดิจิทัลวอลเล็ตไปก่อน จนกว่าสถานการณ์เหมาะสม
...
ข่าวทั้งหมด
