นางอัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และนายชาร์ลส์ มีแชล ประธานสภายุโรปแสดงความรู้สึกผิดหวังกรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศห้ามพลเมืองจาก 26 ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) เดินทางเข้าไปในสหรัฐฯ โดยมองว่า สหรัฐฯไม่มีการปรึกษาหารือกับกลุ่มอียูก่อน จะทำให้ขาดประสิทธิภาพในการสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมทั้งย้ำว่าโรคโควิด-19 เป็นปัญหาวิกฤตด้านสาธารณสุขทั่วโลก ไม่ได้จำกัดเฉพาะพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ทั่วโลกจึงจำเป็นต้องประสานความร่วมมือเพื่อสกัดการแพร่ระบาดมากกว่าจะให้ประเทศใดประเทศหนึ่งแก้ปัญหานี้ตามลำพัง กลุ่มอียู จะจัดทำมาตรการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดการแพร่ระบาดในยุโรป
ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ ประกาศว่า สหรัฐฯจะไม่อนุญาตให้ประชาชนจาก 26 ประเทศของกลุ่มอียูเข้าประเทศเป็นเวลา 30 วัน เริ่มจากหลังเที่ยงคืนของวันศุกร์นี้ พร้อมทั้งจะไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่ชาวอเมริกันที่เดินทางไปยุโรปในช่วง 14 วันก่อนเข้าเมืองด้วย นับเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างฉับพลัน จากเดิมเมื่อ 3 วันก่อนที่ดูเหมือนว่านายทรัมป์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหานี้เท่าที่ควร เนื่องจาก พูดถึงอาการของโรคโควิด-19 ว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา สหรัฐฯไม่มีมาตรการปิดเมือง และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ สหรัฐฯ พบผู้ป่วยโควิด-19 รวม 987 คน ใน 39 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐ มีคนเสียชีวิต 29 ราย
รัสเซียประกาศให้องค์การนิรโทษกรรมสากลเป็นองค์กรไม่พึงปรารถนา
...
สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เผยแพร่ประกาศกรณีแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
...
รัฐบาล แถลง ชะลอดิจิทัลวอลเล็ตไปก่อน จนกว่าสถานการณ์เหมาะสม
...
ข่าวทั้งหมด
