คนไทยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 11 คน หลังร่วมสังสรรค์เพื่อนชาวฮ่องกง ยอดสะสม 70 คน

        สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พบว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 11 คน นับว่าเป็นโชคดีและผลงานของกรมควบคุมโรค ซึ่งขยายเกณฑ์ไปตรวจจับผู้ที่มีการป่วยด้วยโรคปอดอักเสบเป็นกลุ่มก้อนโดยไม่ทราบสาเหตุ

        โดยพบว่ากลุ่มดังกล่าวมีด้วยกัน 15 คน คนในกลุ่มนี้ติดเชื้อ 11 คน เป็นคนไทยทั้งหมดเป็นผู้ชายไทย 5 คน ผู้หญิง 6 คน อายุระหว่าง 25 ปี – 38 ปี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มจากมีผู้สงสัยคือ นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงเดินทางมาเที่ยวตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. และป่วยวันที่ 25 ก.พ.มีไข้ หนาวสั่น ไอ โดยระหว่างป่วยได้ไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อน 2 ครั้ง

          จากนั้น เพื่อนในกลุ่มเดียวกันได้เริ่มทยอยป่วย อาการคล้ายกัน จึงได้เข้าไปตรวจสอบ โดยพบว่า พฤติกรรมคืออยู่ในที่แคบ ดื่มเหล้าแก้วเดียวกัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน โดยพบว่า คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ และดื่มเหล้าแก้วเดียวกันนั้น ไม่ติดโรค

         นอกจากนั้น ได้ขยายวงสอบสวนโรคไปที่งานแต่งงานที่คนกลุ่มนี้เข้าไปร่วมงาน แต่ไม่พบการเจ็บป่วยที่ผิดปกติ จากกรณีดังกล่าวพบว่า เป็นบทเรียนสำคัญในการยกระกับการตรวจเป็นกลุ่มก้อน และยืนยันว่า การกักตัวเองเมื่อป่วยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง

        สำหรับการติดเชื้อในกลุ่มครั้งนี้ ยังยืนยันว่าเรายังเป็นระยะที่ 2 เพราะเป็นการติดเชื้อเป็นกลุ่มในวงจำกัด และไม่ถือว่าเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์ การที่ประเทศไทยยังเป็นระยะ 2 ถือว่า เป็นความร่วมมือจากทุกคน ที่ช่วยกันป้องกันตนเอง ซึ่งการกักตนเองหลังจากกลับจากประเทศเสี่ยงนับเป็นมาตรการสำคัญอย่างยิ่ง

         โดยในขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาหาย กลับบ้านได้ 1 คน เป็นหญิงคนไทย(คุณย่า)ที่ไปเที่ยวฮอกไกโด ที่ญี่ปุ่น รวมมีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 35 คน  ส่วนผู้ติดเชื้อยังรักษาในโรงพยาบาลเหลืออยู่ 34 คน เสียชีวิต 1 ราย รวมสะสม 70 คน

ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 5,232 คน คัดกรองจากทุกด่าน 219 คน มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 5,013 คน อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 3,865 คน ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 1,367 คน