ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.ประจำวันพุธที่ 11 มีนาคม 2563

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.ประจำวันพุธที่ 11 มีนาคม 2563

องค์การเภสัชฯ ขายแอลกอฮอล์เจลชนิดหลอดผ่านเว็บออนไลน์

            เริ่ม 08.30น.วันนี้  องค์การเภสัชกรรม เปิดจำหน่ายแอลกอฮอล์เจลชนิดหลอด และขวดปั๊มผ่านร้านค้าออนไลน์ที่ https://landing.gpoplanet.com หรือสแกน QR Code ได้โดยการเปิดจำหน่ายครั้งนี้จะเริ่มในเวลา 08.30 น. จำกัด 1 คนต่อ 1 ชุดเท่านั้น

นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ปัจจุบันอภ.จัดสรรหน้ากากอนามัยให้รพ.สังกัดรัฐ 400,000 ชิ้นต่อวัน โดยจะพิจารณาความจำเป็นเร่งด่วนแต่ละพื้นที่ ตอนนี้กระจายไปถึง โรงพยาบาลในจังหวัดใหญ่ๆได้แล้วร้อยละ 99 ส่วน รพ.นอกสังกัด สธ. ได้รับ 300,000 ชิ้นต่อวัน ส่วนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประสานให้โรงพยาบาลเอกชน ซึ่งติดต่อโรงงานผู้ผลิตได้โดยตรง และมีตัวเลขรายงานว่า รพ.เอกชน และคลินิกได้รับ 140,000 ชิ้นต่อวัน รพ.ในสังกัด กทม. ได้รับ 70,000 ชิ้นต่อวัน และรพ. สังกัดมหาวิทยาลัยและคณะทันตแพทย์ ได้รับ 60,000 ชิ้นต่อวัน ส่วนกระทรวงพาณิชย์ที่ได้รับการจัดสรร 500,000 ชิ้นต่อวันนั้น กลุ่มเสี่ยงต่ำจะได้รับ 200,000 ชิ้นต่อวัน ร้านธงฟ้า 150,000 ชิ้นต่อวัน ร้านขายยา 25,000 ชิ้นต่อวัน และร้านสะดวกซื้อรวมถึงหน่วยงานราชการ 125,000 ชิ้นต่อวัน โดยช่วง3วันที่ผ่านมาบริหารจัดการกว่าล้านชิ้น และคาดการณ์ว่า 1-2 วันนี้สถานการณ์หน้ากากอนามัยขาดแคลนจะคลี่คลาย มีใช้ ในโรงพยาบาลและเพียงพอต่อบุคลากรทางการแพทย์ อย่างช้า12มี.ค.หน้ากากถึงรพ.ทั่วปท.

จุรินทร์ ย้ำเอาผิด กักตุน-โก่งราคา

          นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ (พณ.) กล่าวถึงกรณีมีผู้ครอบครองหน้ากากอนามัยมากถึง 200 ล้านชิ้นว่า ถ้ามีคนครอบครองจริงถึง 200 ล้านชิ้นหรือครอบครองในปริมาณที่กฎหมายห้ามแล้วไม่แจ้งถือว่าผิดกฎหมาย 2.การขายเกินราคาควบคุม ถือเป็นอีกหนึ่งข้อหา 3.การค้ากำไรเกินควรก็เป็นอีกหนึ่งข้อหา ประเด็นทั้งหมดเป็นสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปร่วมตรวจสอบด้วยและกำชับว่าต้องดำเนินการโดยเคร่งครัดไม่เห็นแก่หน้าใครให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าเกี่ยวพันถึงการส่งออกก็ต้องจัดการ เพราะเรื่องการส่งออกต้องขออนุญาตและไม่มีการอนุญาต ถ้าลักลอบส่งออก ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานในส่วนที่เกี่ยวข้องต้องเข้าไปดำเนินคดี

          สำหรับในวันนี้ เวลา 10.00 น.นายหยาง ซิน (Mr. Yang Xin) อุปทูตสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย จะเข้าพบนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ณ ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

            นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยสถิติจับกุมดำเนินคดีผู้ทำผิดตามมาตรา 25, 28, 29 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ประจำวันที่ 9 มีนาคมว่า จับกุมดำเนินคดีไปแล้ว 107 ราย แบ่งเป็น จับในเขต กทม. 77 ราย และต่างจังหวัด 30 ราย เมื่อแยกเป็นความผิดแต่ละข้อหาจากจำนวนการจับกุม 107 รายดังกล่าว พบเป็นการจับกุมข้อหาขายเกินราคาควบคุม 4 ราย ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคา 28 รายการ และข้อหาขายแพงเกินสมควร 75 ราย ในจำนวนนี้เป็นการทำผิดจากการขายผ่านออนไลน์ 15 ราย และมีผู้ถูกจับกุมข้อหาขายเกินราคาควบคุม มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควรจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท และหากเป็นผู้นำเข้าหรือตัวแทนจำหน่ายก็ต้องแจ้งปริมาณการถือครองสินค้าต่อกรมการค้าภายใน หากฝ่าฝืนมีความผิด โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท

รมช.เกษตรฯ เรียก“พิตตินันท์”ชี้แจงวันนี้ .

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ออกคำสั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง มีนายรัตนะ สวามีชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ เป็นหัวหน้าคณะทำงานฯ รวบรวมข้อมูล พยานหลักฐาน ทั้งนี้ นายรัตนะเรียก นายพิตตินันท์ มาชี้แจงต่อคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จริงด่วนที่สุดตามคำสั่งรมช. เกษตรฯวันที่ 11 มีนาคม ที่กระทรวงเกษตรฯ โดยจะสอบถามความเกี่ยวข้องกับนายศรสุวีร์ผู้โพสต์จำหน่ายหน้ากากอนามัยและประเด็นแสดงบัตรประจำตัวว่า เป็นผู้ติดตามของร.อ.ธรรมนัสว่า ได้มาอย่างไร จะเร่งสรุปผลภายในสัปดาห์นี้

          พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เรียกคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน มาสอบถามความคืบหน้าผลการเข้าตรวจค้น 6 จุดเป้าหมายในกรุงเทพฯ และจ.ชลบุรี ที่มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับการโพสต์ข้อความของนายศรสุวีร์ว่ามีหน้ากากอนามัยจำนวนมากในครอบครอง เพื่อรอส่งขายต่างประเทศ ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวได้มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ติดตามความคืบหน้าเพิ่มเติมประเด็นสงสัยต่างๆ โดยเฉพาะบุคคลที่อ้างอิงถึง และภาพแต่ละภาพที่นำไปโพสต์ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร

           นอกจากนี้ ตำรวจประสานไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายศรสุวีร์ว่าทำธุรกรรมใดเข้าข่ายผิดปกติน่าสงสัยหรือไม่ ส่วนประเด็นที่จะขอให้ ปปง. ตรวจสอบ เช่น ภาพสมุดบัญชีธนาคารที่มีเงินในบัญชี 300-400 ล้านบาท และเช็คสั่งจ่ายแต่ละฉบับว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร คาดว่าจะทราบผลภายใน 3-4 วัน

          รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่จะเรียกนายพิตตินันท์ รักเอียด คณะทำงานร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ มาสอบปากคำ ประเด็นความสัมพันธ์ส่วนตัวกับนายศรสุวีร์ แต่ยังไม่จำเป็นต้องเรียกร.อ.ธรรมนัส มาให้ปากคำ เนื่องจากไม่มีภาพปรากฏในเฟซบุ๊กของนายศรสุวีร์ และยังไม่พบว่ามีโพสต์ใดที่อ้างถึง

          ส่วนเจ้าของบริษัทเอกชนย่านหนองแขม จะเรียกมาสอบถามประเด็นทำธุรกิจที่ให้การว่า เคยส่งขายหน้ากากอนามัยให้จีนช่วงที่มีการระบาดโรคโควิด-19 ระยะแรกๆ ส่วนเจ้าของโรงงานย่านมีนบุรี จะซักถามประเด็นที่ตรวจพบหน้ากากอนามัย 500,000 ชิ้น ในโรงงานว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร เตรียมส่งขายให้ลูกค้าซึ่งเป็นร้านขายยา 3,000-4,000 ร้านค้า จริงหรือไม่ ซึ่งทั้งบริษัทเอกชนและโรงงานดังกล่าว ตำรวจประสานข้อมูลให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดอีกทางด้วย

เรียกคนใกล้ชิด ศรสุวีร์ กักตุ้นหน้ากากอนามัย ให้ปากคำ

           หลังนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือเสี่ยบอย ถูกตำรวจเชิญตัวมาสอบปากคำ หลังมีการเผยแพร่ภาพและคลิปกักตุนหน้ากากอนามัยหลายล้านชิ้น นอกจากนี้ยังมี การโพสต์ภาพกับ นายลี ซึ่งอ้างว่าเป็นคู่ค้าการขายกับบริษัทอาลีบาบา ซึ่งตำรวจได้แจ้งข้อหา พ.ร.บ.คอมฯ  

           ล่าสุด ทาง อาลีบาบา กรุ๊ป ได้ส่งจดหมายแถลงการณ์ชี้แจงว่า ทางบริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายลี และนายศรสุวีร์ ภู่ และไม่มีการทำข้อตกลงทางธุรกิจกับบุคคลเหล่านี้ตามที่กล่าวอ้าง เรารู้สึกเสียใจที่มีการพาดพิงถึงบริษัทฯ เช่นนี้ และขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อการแอบอ้างชื่อ อาลีบาบา กรุ๊ป โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยในวันนี้ ทางปอท.จะเรียกบุคคลใกล้ชิด นายศรสุวีร์ รวมถึงดารานักแสดง ที่ปรากฏมาให้ปากคำที่ ปอท. ศูนย์ราชการ  นอกจากนั้น ในเวลา 10.30 น. นายสนธิญา สวัสดี สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นปอท.เชิญเพจแหม่มโพธิ์ดำ เข้าให้ข้อมูลเรื่องนายศรสุวีร์ ขายหน้ากาก ด้วยเช่นเดียวกัน

กลุ่มผีน้อยเข้ากักตัวที่สัตหีบรวม 242 คน

           กลุ่มแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้ จำนวน 54 คน ที่ผ่านการคัดกรองจากสนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางมายังอาคารศูนย์เฝ้าระวัง อาคารรับรองสัตหีบ เพื่อพักเฝ้าดูอาการเป็นเวลา 14 วัน โดยมีเจ้าหน้าที่จากชุดปฏิบัติการ เคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์ กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ ชำระล้างตัวคนและกระเป๋าเดินทาง โดยการพ่นยาฆ่าเชื้อ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นสิ่งของต้องห้าม ก่อนการคัดกรองด้วยการตรวจวัดไข้ ให้กับกลุ่มคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้

          โดยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข ก่อนจะส่งตัวเข้าพักในอาคารที่ 6 และ 7 ซึ่งแยกพักประเภทชาย-หญิง ต่างอาคาร และแยกกับคนไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ชุดเดิมที่พักอยู่จำนวน 188 คน รวมปัจจุบันมียอดผู้ที่ถูกกักตัวเฝ้าระวังทั้งสิ้นแล้ว 242 คน ซึ่งในช่วงเวลา 02.00 น. และ 04.00 น. ของเช้าวันที่ 11 มี.ค. จะมีกลุ่มคนไทย เดินทางมาถึงอาคารรับรองสัตหีบ เพิ่มอีก 2 ชุดด้วยกัน ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้จะมีการแถลงข่าวความคืบหน้า  

           นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข รายงานผลการสรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านขาเข้า-ออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประจำวันที่ 9 มีนาคม 2563สรุปจำนวนเที่ยวบินทั้งสิ้น 747 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ จำนวน 513 เที่ยวบิน ขาออกจำนวน 256 เที่ยวบิน ขาเข้าจำนวน 257 เที่ยวบิน  ส่วนเที่ยวบินภายในประเทศ จำนวน 234 เที่ยวบิน ขาออกจำนวน 117 เที่ยวบินขาเข้าจำนวน 117 เที่ยวบิน

         โดยมีจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า ออก ทสภ. มีจำนวนทั้งสิ้น 85,588 คน เป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศจำนวน 60,757 คน ผู้โดยสารขาออกจำนวน 35,594 คน  ผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 26,963 คน

         ส่วนผู้โดยสารภายในประเทศจำนวน 24,831 คน ผู้โดยสารขาออกจำนวน 11,634 คน ผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 13,197 คน  ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทสภ. ได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้า จำนวนทั้งสิ้น 26,936 คน มีผู้โดยสารที่เป็นไข้ มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศา จำนวน 2 ราย เป็นผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลี ที่มีวีซ่าการเดินทางหมดอายุ (Overstay) โดยถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลบางพลี 1 ราย และ โรงพยาบาลสมุทรปราการ อีก 1 ราย

            ส่วนแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีหากพบวีซ่าการเดินทางหมดอายุ จะจัดรถเพื่อนำไปส่งยังพื้นที่ควบคุมโรคที่รัฐกำหนด (กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง) (State Quarantine) โดยกระทรวงกลาโหม จำนวน 136 คน และหากเป็นผู้เดินทางอื่นๆ จะถูกส่งตัวไปพื้นที่ควบคุมโรค ใกล้ภูมิลำเนา (Local Quarantine) โดยกระทรวงมหาดไทย จำนวน 91 คน