ภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ต ยื่นหนังสือขอความชัดเจนแนวทางปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยง

          ตามที่กระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศประเทศเขตติดโรคติดต่ออันตราย ที่ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี, สาธารณรัฐประชาชนจีนรวมถึงเขตการบริหารพิเศษมาเก๊า และ ฮ่องกง, สาธารณรัฐอิตาลี, สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน

          นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ร่วมด้วยผู้แทนจากสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต,สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้,สมาคมโรงแรมหาดป่าตอง,สมาคมผู้ประกอบการโรงแรมหาดกะตะกะรน ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สำเนาถึงอธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ,ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เรื่อง การปฏิบัติต่อผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยมี นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับมอบหนังสือ โดยระบุว่า องค์กรเอกชนด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ขอความชัดเจนในแนวทางการปฏิบัติเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อความเข้าใจตรงกันและสามารถปฏิบัติงานได้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการระบุผู้รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ ทั้งในส่วนการกักกันตัวและการเฝ้าระวังทั้งที่สนามบินและด่านตรวจต่างๆให้เป็นมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในจังหวัดภูเก็ต และนักท่องเที่ยวทั่วไป 

          นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตโดยทางเรือ ทั้งในส่วนเรือโดยสาร และเรือสำราญส่วนตัว ทางองค์กรเอกชนฯ จึงขอความชัดเจนเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ณ จุดตรวจในการขึ้น-ลงทางเรือ ว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใด และได้ตรวจสอบตามกฎหมายอย่างเข้มข้นหรือไม่

          นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในเวลา 13.30 น.วันนี้จะมีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องที่องค์กรเอกชนฯ สอบถาม ซึ่งจะมีบางเรื่องที่ต้องส่งต่อไปที่ส่วนกลาง เช่น การประกาศให้นักท่องเที่ยวได้ทราบแนวทางวิธีปฏิบัติก่อนเข้ามาสู่ราชอาณาจักรไทยว่าต้องถูกกักตัว 14 วันที่โรงแรม ซึ่งมีรายละเอียดว่า จะต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างไร ต้องทำเรื่องให้สมาคมโรงแรมไทยกลับไปหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงต่างประเทศให้ช่วยบอกนักท่องเที่ยวก่อนเข้าเมืองไทยว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

         ....