สธ.รายงานผู้ป่วยติดเชื้อมีจำนวน 50 คนเท่าเดิม
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยมีจำนวนเท่าเดิมคือ 50 คนโดยมีผู้ที่รับการรักษาหายกลับบ้านได้เพิ่มอีก 2 คน รวมเป็น 33 คน เสียชีวิต 1 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 16 คน โดยเป็นผู้ป่วยหนัก 1 คน มีผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคทั้งหมด 4,366 คน กลับบ้านแล้ว 2,629 คน ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,737 คน
ติดตามแรงงานผิดกฎหมายหลบหนีกักตัว
กรณีผู้ที่กลับมาจากเกาหลีใต้ แล้วหลบหนีการกักกันตัวเฝ้าระวังโรค 14 วัน จำนวนประมาณ 80 คน นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า เป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาในประเทศก่อนที่จะมีการประกาศมาตรการคัดกรองแรงงานนอกระบบเมื่อวันที่ 7 มีนาคม และอาจเป็นเพราะตื่นตระหนกจึงหลบหนี แต่จะติดตามให้ได้ทุกคน
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ร่วมกันจัดพื้นที่ควบคุมโรคเพื่อสังเกตอาการแรงงานนอกระบบที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้เป็นเวลา 14 วันจนพ้นระยะฟักตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยแรงงานนอกระบบที่เดินทางมาจากทุกเมือง หลังจากถูกคัดกรองที่สนามบิน หากมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ จะถูกส่งไปโรงพยาบาลที่กำหนดไว้ ส่วนที่เหลือจะส่งมาที่พื้นที่ควบคุมโรค อาคารกิจการรับรองสัตหีบ ส่วนแรงงานถูกกฎหมาย และผู้เดินทางคนอื่นๆ จะถูกคัดกรองที่สนามบิน หากมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ จะถูกส่งไปโรงพยาบาลที่กำหนดไว้ ที่เหลือจะถูกส่งตัวไปพื้นที่ควบคุมโรคใกล้ภูมิลำเนาที่ทางจังหวัด สาธารณสุขประจำจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมไว้ โดยมีระบบเฝ้าระวังติดตามอาการจนครบ 14 วัน
รมช.สาธารณสุข ขอให้แรงงานนอกระบบจากเกาหลีใต้ที่ยังไม่ได้เข้ารับการเฝ้าระวังสังเกตอาการในพื้นที่ควบคุมที่รัฐกำหนด รายงานตัวที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตามภูมิลำเนาภายใน 3 วัน ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินการตามกฎหมายพ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558
แพทย์เคลื่อนไหวหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอ
ส่วนปัญหาหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่มีไม่เพียงพอ วันนี้ยังมีการนัดชุมนุมของกลุ่มแพทย์ที่แสดงความไม่พอใจการจัดสรรหน้ากากอนามัยให้แก่สถานพยาบาล โดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นัดชุมนุมในเวลา 16.30 น.
ขณะที่สมาคมร้านขายยาออกแถลงการณ์ ระบุว่าไม่เคยได้รับหน้ากากอนามัยจากกรมการค้าภายใน
โดยในวันนี้ ยังต้องติดตามกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์เปิดโปงผู้กักตุนหน้ากากอนามัยจำนวนมากแล้วนำไปขายให้กับนายทุนจีนด้วย ซึ่งมีทั้งคลิปและภาพนิ่งขณะที่กล่าวถ้อยคำโฆษณาขายสินค้า การขนย้ายสินค้า จนถึงการขายให้กับนายทุนชาวจีน
กรมการค้าภายในส่งหน้ากากอนามัยให้กทม.แล้ว 7 หมื่นชิ้น
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในประเทศมีโรงงานผลิตทั้งหมด 11 แห่งมีกำลังการผลิตวันละ 1 ล้าน 2 แสนชิ้น จัดส่งให้บุคลากรทางการแพทย์วันละ 7 แสนชิ้น ที่เหลือส่งไปขายตามสนามบิน สายการบินและร้านขายยา ยืนยันว่าได้ให้ความสำคัญกับบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาล สถานพยาบาล ซึ่งเป็นผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้อันดับแรก
นพ.พิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในจัดสรรหน้ากากอนามัยให้กรุงเทพมหานครแล้ว 7 หมื่นชิ้น เพื่อนำไปแจกให้โรงพยาบาลในสังกัด และศูนย์บริการสาธารณสุข
เบรกโรงงานสิ่งทอผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้า 30 ล้านชิ้น
ตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เสนอเรื่องให้โรงงานสิ่งทอผลิตหน้ากากผ้าเพื่อประชาชน จำนวน 30 ล้านชิ้น ภายใน 1 เดือนเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เศรษฐกิจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ที่ประชุมเคยอนุมัติงบกลางวงเงิน 225 ล้านบาทให้กับโครงการพลังคนไทยร่วมใจป้องกันโรคโควิด-19 โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบ ในการนำไปผลิตหน้ากากทางเลือกหรือหน้ากากผ้า จำนวน 50 ล้านชิ้น ต้นทุนชิ้นละ 4.50 บาท นายกรัฐมนตรี จึงให้ใช้หน้ากากในส่วนที่กระทรวงมหาดไทยกำลังจะผลิตขึ้นมาก่อน หากในอนาคตยังไม่เพียงพอจึงจะให้กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าการผลิตตามที่ได้หารือไว้
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้คุยกับโรงงานสิ่งทอแล้วและพบว่าต้นทุนผลิตราคาสูงถึง 24 บาท/ชิ้น ซึ่งหมายความว่าต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เอกชนอาจจะถอดใจไม่ลงทุน แต่ในวันนี้ จะมีการออกประกาศกระทรวง เรื่องชนิดผ้าที่ใช้ผลิตหน้ากากผ้าออกมา เพราะเมื่อต้องผลิตจริงจะได้สามารถดำเนินการได้ทันที
พาณิชย์จับผู้ค้าขายหน้ากากแพงแล้ว 89 ราย
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่านับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมรวมจับกุมผู้ค้าแล้ว 89 รายใน 2 ข้อหาคือ ไม่ติดป้ายแสดงราคา และข้อหาจำหน่ายแพง โดยในประกาศของคณะกรรมการกลางกำหนดราคาหน้ากากอนามัยชิ้นละ 2.50 บาท
….