ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม 2563

องค์การอนามัยโลกเชื่อมั่นประชาคมโลก สามารถร่วมกันยับยั้งไวรัสโควิด-19 ได้

          องค์การอนามัยโลก แนะนำให้รัฐบาลทั่วโลกดำเนินมาตรการอย่างรัดกุม-เหมาะสม เพื่อรับมือและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมเชื่อว่าจะสามารถยับยั้งได้ หากทุกประเทศมีความร่วมมือกัน โดยขณะนี้อิตาลี อิหร่าน และเกาหลีใต้ ถือเป็น 3 ประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำให้ผู้เชี่ยวชาญมีความกังวล ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่านี่ไม่ใช่การฝึกซ้อม ไม่ใช่เวลาที่จะมายอมแพ้ แก้ตัว หรือกล่าวโทษกัน แต่เป็นช่วงเวลาที่ต้องช่วยกันหยุดยั้ง หลายประเทศวางแผนยาวนานหลาย 10 ปี ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะทำตามแผนการนั้น

สหรัฐฯพบผู้ป่วยติดเชื้อมีประวัติเข้าร่วมการประชุมกับ "ทรัมป์"

          สหภาพอนุรักษ์นิยมอเมริกา (ACU) เปิดเผยว่า มีหนึ่งในผู้เข้าร่วมการประชุม Conservative Political Action Conference (CPAC) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย

          สำหรับผู้ติดเชื้อรายนี้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนิวเจอร์ซีย์ และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ยืนยันผลการตรวจแล้ว โดยในการประชุมรายการนี้ยังมีรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์, นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีการต่างประเทศ, นายอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐฯ และนายมาร์ค มีโดวส์ เสนาธิการทำเนียบขาว

          ด้านนางสเตฟานี กริสแชม โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ทำเนียบขาวได้รับทราบรายงานนี้แล้ว แต่ในระหว่างการประชุม ทั้งประธานาธิบดีทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเพนซ์ ไม่ได้มีความใกล้ชิดกับผู้ป่วย

          ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นถึงระดับ 19 ราย และมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 400 คน นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ออกประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว

          นอกจากนี้ สหรัฐฯยังกักตัวผู้โดยสารและลูกเรือจากเรือสำราญแกรนด์ ปรินเซส ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ผลการตรวจผู้โดยสารมากกว่า 3,000 คนซึ่งมาจาก 50 ประเทศทั่วโลก พบว่ามีผู้ติดเชื้อแล้ว 21 คนซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ มีความเห็นว่าเขาต้องการให้มีการกักตัวผู้โดยสารทั้งหมดบนเรือ เพื่อไม่ให้ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้น

          ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังแสดงความตั้งใจที่จะไม่ยุติการจัดการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง ถึงแม้ว่าสถานการณ์ของโรคติดเชื้อจะแพร่ระบาด

อิตาลีปิดแคว้นลอมบาร์เดีย สกัดไวรัสโควิด-19

         จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในอิตาลี ที่มียอดผู้ติดเชื้อมากกว่า 5,800 คน เสียชีวิตมากกว่า 233 ราย นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต แห่งอิตาลี ลงนามในคำสั่งปิดแคว้นลอมบาร์เดีย เพื่อควบคุมโรค ซึ่งนับเป็นมาตรการที่เข้มงวดที่สุดในการควบคุมโรคระบาดนอกเขตจีน เนื่องจากแคว้นลอมบาร์เดีย นับเป็นศูนย์กลางการระบาดในประเทศ โดยห้ามประชากรอย่างน้อย 10 ล้านคนเดินทางเข้า-ออกจากแคว้น จนถึงวันที่ 3 เมษายน นอกจากนี้แล้วรัฐบาลอิตาลียังออกคำสั่งปิดพื้นที่ 14 จังหวัดทางตอนเหนือส่งผลกระทบต่อประชากร 16 ล้านคน

          รัฐบาลอิตาลียังขอให้เจ้าหน้าที่แพทย์เกษียณอายุ กลับมาทำงานเพื่อช่วยรับมือสถานการณ์โรคติดเชื้อ ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีเจ้าหน้าที่แพทย์เพิ่มขึ้นอีก 2 หมื่นคน

สถานการณ์โรคติดเชื้อกดดันเลือกตั้งท้องถิ่นฝรั่งเศส

          ในวันที่ 15 และ 22 มีนาคมนี้ ฝรั่งเศสจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และพรรครีปูบลิก อองมาร์ช หรือแอลอาร์อีเอ็ม ของเขามีคะแนนนิยมไม่ดีนัก เนื่องจากรัฐบาลเผชิญกับปัญหากลุ่มผู้ประท้วงเสื้อกั๊กสีเหลืองเมื่อปี 2561-2562 และยังถูกโจมตีอย่างหนักเกี่ยวกับมาตรการรับมือการระบาดของเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19

          นายเจอโรม ซาโลมอน อธิบดีกรมอนามัยของฝรั่งเศส เปิดเผยว่าฝรั่งเศสมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 949 คน นับเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก และมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 16 คน

อียิปต์พบผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ

          กระทรวงสาธารณสุขอียิปต์และองค์การอนามัยโลกประจำกรุงไคโร แถลงผลการตรวจยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 12 คน ซึ่งรวมถึงพนักงานบนเรือสำราญล่องแม่น้ำไนล์ แต่ทั้ง 12 คนเป็นผู้ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ (asymptomatic) ทั้งนี้ การตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 มีขึ้นขณะที่เรือกำลังเดินทางจากเมืองอัสวานไปยังเมืองลักซอร์ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางใต้กรุงไคโร และเมื่อเรือจอดเทียบท่าเรือที่เมืองลักซอร์ มีการตรวจผู้โดยสารและพนักงานอีกครั้ง พบผู้ป่วยติดเชื้อบนเรือสำราญลำนี้เพิ่มขึ้นอีก 33 คน ส่งผลให้อียิปต์ มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 48 คนแล้ว

อิสราเอลเกณฑ์วัยรุ่นสู้ไวรัสแนวหน้า อ้างเด็กไม่เสี่ยงไวรัส

          นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลวางแผนที่จะใช้กำลังทหารและเกณฑ์กองกำลังวัยรุ่นเพื่อช่วยต่อสู้กับโรคติดเชื้อ และเตรียมขึ้นบัญชีดำสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศห้ามพลเมืองเดินทาง โดยคนหนุ่มสาวเหล่านี้จะเป็นกำลังหลักในปฏิบัติการฆ่าเชื้อในพื้นที่สาธารณะ เช่น สถานีรถไฟและสถานีขนส่ง เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูมีความเห็นว่า เด็กหรือคนหนุ่มสาวไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดครั้งนี้ โดยอิสราเอลมีผู้ป่วยติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้ว 25 คนและมีผู้ที่ถูกกักกันที่บ้าน 8 หมื่น แต่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลเปิดเผยว่า อิสราเอลมีผู้ติดเชื้อหลายหมื่นคนจากประชากรทั้งประเทศ 9 ล้านคน

 ...