รัฐนิวยอร์กประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 89 คน

          นายแอนดรูว์ คูโอโม่ ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐนิวยอร์ก วานนี้ (7 มี.ค.) หลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 89 คน และอาจต้องใช้งบประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อสัปดาห์ ในการต่อสู้กับการระบาด และทางการจะดำเนินการเชิงรุกเกี่ยวกับการตรวจสอบหาผู้ติดเชื้อตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อนำเข้าสู่การกักตัวอย่างทันท่วงที

          โดยในกลุ่มผู้ติดเชื้อในรัฐนิวยอร์ก พบว่ามีอยู่ 57 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชุมชนยิว ออร์โธดอกซ์ในเมืองนิว โรเชลล์ ซึ่งตั้งอยู่ที่เวสต์เชสเตอร์ เคาน์ตี้ ห่างจากนครนิวยอร์กไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 32 กิโลเมตร ขณะที่กลุ่มบ้านพักผู้เกษียณและศูนย์พยาบาลต่างๆ ในเมืองนิว โรเชลล์ ประกาศห้ามบุคคลภายนอกเข้า เพื่อชะลอการระบาด

          ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ รายงานพบผู้ติดเชื้อจำนวน 437 คนในสหรัฐฯ และมีผู้เสียชีวิต 19 ราย ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้สึกวิตกกังวลต่อการติดเชื้อ หลังจากที่มีรายงานผู้ติดเชื้อคนหนึ่ง คือผู้เข้าร่วมประชุม Conservative Political Action Conference หรือ CPAC ซึ่งประธานาธิบดีเข้าร่วมประชุมด้วย และยังพบผู้ติดเชื้อคนแรกในกรุงวอชิงตัน ดีซี

          ส่วนที่อาร์เจนตินา กระทรวงสาธารณสุขอาร์เจนตินา เปิดเผยวานนี้ (7 มี.ค.) ว่าชายวัย 64 ปี ซึ่งเป็นชาวกรุงบัวโนสไอเรส กลายเป็นผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อเป็นรายแรกในอาร์เจนตินา และเป็นรายแรกในอเมริกาใต้ โดยชายคนนี้ ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อหลังจากที่เดินทางกลับมาจากยุโรป เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ และเข้ารับการรักษาที่ศูนย์สาธารณสุข เมื่อวันที่ 4 มีนาคม

...