สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็น 12 รายแล้ว โดยผู้เสียชีวิตรายที่ 12 อยู่ในคิงเคาน์ตี วอชิงตัน และมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 53 คน รวมมีผู้ป่วยสะสม 232 คน โดยรัฐที่พบผู้ป่วยติดเชื้อคนแรกเมื่อวานนี้ (5 มี.ค) คือรัฐโคโลราโด, เทนเนสซี, เท็กซัส และซานฟรานซิสโก ขณะที่รัฐแคลิฟอร์เนีย วอชิงตัน ฮาวาย และฟลอริดา ต่างประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขแล้ว
โดยที่วอชิงตัน ทางการคิงเคาน์ตี ออกประกาศให้ผู้อยู่อาศัยปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสุขภาพอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยกันยับยั้งการแพร่กระจายเชื้อโรค ซึ่งนอกจากนี้แล้ว ยังมีผู้ป่วยหลายคนในรัฐวอชิงตันที่มีความเกี่ยวข้องกับการระบาดที่บ้านพักคนชรา ในเมืองเคิร์กแลนด์ ในเขตนครซีแอตเทิล ที่มีผู้เสียชีวิต 6 คน ซึ่งรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ประกาศให้มีการสอบสวนแล้ว เนื่องจากเมื่อปีก่อนบ้านพักคนชราแห่งนี้เคยถูกปรับเงิน 67,000 ดอลลาร์ เพราะระบบการควบคุมการติดเชื้อบกพร่อง ทำให้มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 17 คน
ขณะเดียวกัน ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เฮลิคอปเตอร์นำส่งชุดทดสอบไปยังเรือสำราญแกรนด์ ปรินเซส ที่ทอดสมออยู่นอกชายฝั่ง เนื่องจากทางการสั่งห้ามเรือจอดเทียบท่าในซานฟรานซิสโก ตามที่มีรายงานในเบื้องต้นว่า และมีผู้โดยสารและลูกเรืออย่างน้อย 35 คนที่มีอาการป่วยคล้ายกับไข้หวัดใหญ่อยู่บนเรือ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ราย ก่อนหน้านี้
....