สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย วันนี้ พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มอีก 4 คน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า คนแรกเป็นชาวอิตาลี พนักงานบริษัท อายุ 29 ปี มาจากประเทศอิตาลี เข้าไทยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2563 ที่สนามบินตรวจไม่พบอาการ ก่อนที่วันต่อมาจะมีไข้, ไอ และมาหาแพทย์ที่โรงพยาบาล ปัจจุบันอยู่ที่โรงพยาบาลชลบุรี คนที่สองเป็นคนไทย พนักงานบริษัท อายุ 42 ปี มาจากอิตาลี เดินทางเข้าไทยวันที่ 2 มีนาคม 2563 การคัดกรองที่สนามบินตรวจไม่พบอาการ ทั้งสองคนไม่เกี่ยวข้องกัน คนที่สามเป็นคนจีน อายุ 22 ปี เดินทางมาจากอิหร่าน เพื่อรอต่อเครื่องบินที่ไทย แต่เจ้าหน้าที่ตรวจพบก่อนว่ามีอาการเข้าข่ายเป็นโรคโควิด-19 จึงส่งตัวไปรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ส่วนคนสุดท้ายเป็นนักศึกษาคนไทย อายุ 20 ปี มาจากอิหร่านเช่นกัน แต่ถึงไทยตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 การตรวจสอบที่สนามบินไม่พบอาการ ก่อนที่วันที่ 2 มีนาคม 2563 เจ้าตัวจะมีไข้, ไอ และเจ็บคอ จึงเข้าพบแพทย์ ปัจจุบันรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช จากยอดผู้ป่วยใหม่ 4 คน ทำให้ตอนนี้ไทยมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมรวม 47 คน รักษาหายกลับบ้านแล้ว 31 คน อยู่โรงพยาบาล 15 คน เสียชีวิต 1 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 20 ของโลก ส่วนผู้ป่วยอาการหนัก 1 คน ผลตรวจไม่พบเชื้อนานแล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้น เพราะผู้ป่วยมีโรควัณโรคร่วมด้วย ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคของไทยตอนนี้รวม 3,895 คน กลับบ้านได้แล้ว 2,319 คน และอยู่โรงพยาบาล 1,576 คน
อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาพื้นที่เฉพาะทำเป็นที่ควบคุมโรค เพื่อรองรับคนที่มาจากประเทศที่มีการระบาด และจะเตรียมทุกอย่างให้พร้อม และจะยกระดับการตรวจติดตามผู้ที่มาจากพื้นที่ที่มีการระบาดแล้วไม่ยอมกักตัว14 วันที่บ้าน โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจอาการและเฝ้าดูทุกวันจนกว่าจะพ้น 14 วัน ที่เป็นระยะเฝ้าระวัง และขอให้ปฎิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ระบุถึงกรณีที่นักวิจัยจีนตรวจพบการกลายพันธุ์ของเชื้อโรคโควิด-19 ว่า งานวิจัยนี้เป็นเรื่องใหม่ ต้องหาข้อมูลและศึกษาเพิ่มเติมก่อน