สหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้น ขณะที่แอลเอประกาศภาวะฉุกเฉิน

          สหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็น 11 คน โดย 10 คนในกลุ่มนี้อยู่ในรัฐวอชิงตัน อีก 1 รายอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย และทั้งประเทศสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 157 คน (เมื่อเวลา 08.36 น.) โดยเมืองใหญ่ 2 แห่ง รายงานพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 คนในวันพุธ (4 มี.ค.)

          ทางการนครลอสแอนเจลิส ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขหลังพบผู้ติดเชื้อคนที่ 6 ในเขตเวสต์โคสต์ ดร.บาร์บารา เฟอร์เรอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสุขภาพลอสแอนเจลิส เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 3 คนเพิ่งเดินทางกลับมาจากพื้นที่ทางเหนือของอิตาลี อีก 2 คนติดเชื้อมาจากสมาชิกในครอบครัว ส่วนคนสุดท้ายมีการทำงานที่ติดต่อกับนักท่องเที่ยว แต่ในกลุ่มนี้ มีเพียงคนเดียวที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล อีก 5 คนยังอยู่ที่บ้านพักภายใต้การติดตามอาการของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างใกล้ชิด ซึ่งนายอีริค การ์เซตติ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส กล่าวว่าการใช้ภาวะฉุกเฉินมีเป้าหมายเพื่อให้ชุมชนมีการเตรียมพร้อม ไม่ใช่การสร้างความตื่นตระหนก

          ส่วนที่นิวยอร์กพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 4คน รวมมีผู้ป่วยสะสม 6 คนแล้วโดยมีอยู่ 3 คนอยู่ในครอบครัวเดียวกันผู้ติดเชื้อชายที่เข้ารับการรักษาก่อนหน้านี้ กับมีผู้ป่วยอีก 1 คนที่เป็นเพื่อนบ้าน ซึ่งขับรถพาผู้ติดเชื้อชายไปโรงพยาบาล นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กประกาศให้ประชาชนราว 1,000 คนในเขตเวสต์เชสเตอร์ เคาน์ตี้ ใกล้กับมหานครนิวยอร์ก กักตัวเองอยู่ในบ้านพักเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยยังมีนักศึกษาราว 300 คนของมหาวิทยาลัยหลายแห่งในนิวยอร์ก ที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ จีน, อิตาลี, ญี่ปุ่น, อิหร่าน และเกาหลีใต้ ต้องกักตัวเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วันเช่นกัน

...