สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยยังมีจำนวนเท่าเดิม ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ยอดผู้ป่วยสะสม 43 คน เสียชีวิต 1 ราย กลับบ้านได้แล้ว 31 คน รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 11 คน และอาการหนัก 1 คน ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด ทำให้ขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อเป็นลำดับที่ 17 จากการแพร่ระบาดทั่วโลก
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่10 ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อ 75 ประเทศ มี 5 ประเทศไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ รวมขณะนี้มีผู้ป่วยสะสมติดเชื้อทั่วโลก 92,321 คน เพิ่มจากเมื่อวาน 2,105 คน เสียชีวิตรวม 3,137ราย เพิ่มจากเมื่อวาน 57 ราย ซึ่งยังต้องรอความชัดเจนว่าประเทศไทยจะมีการประกาศประเทศเสี่ยงทั้งหมดกี่ประเทศ เมื่อเดินทางเข้ามาแล้วจะต้องแจ้งข้อมูลที่พำนักอย่างไรบ้าง
กรณีแรงงานคนไทยเดินทางกลับจากเกาหลีใต้ 19 คน ผลการตรวจไม่พบเชื้อแต่ยังต้องเฝ้าติดตามอาการ 14 วัน พร้อมยืนยันว่า ไม่ว่าจะเดินทางเข้ามาช่วงเวลาไหน ก็จะมีเจ้าหน้าที่ทำงานตลอด24ชั่วโมง และขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์ เพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ
สำหรับการใช้หน้ากากอนามัยที่ขณะนี้ยังมีปัญหาราคาสูงและขาดแคลน นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย ยืนยันว่า หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรคดีที่สุด คนที่ไม่ป่วยไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ในพื้นที่ปกติ แต่หากไปอยู่ในพื้นที่แออัด ใส่หน้ากากผ้าได้ ลดการสัมผัสสิ่งของหรือธนบัตร เลี่ยงนำมือมาสัมผัสใบหน้า และหมั่นล้างมือด้วยเจลหรือสบู่ เพื่อให้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์มีเพียงพอใช้สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อ เช่น ผู้ป่วยโรคต่างๆ แพทย์ พยาบาล โดยประชาชนสามารถทำหน้ากากผ้าขึ้นมาเองได้ ด้วยการใช้ผ้าฝ้ายใยสังเคราะห์และผ้าสาลู จะช่วยได้ร้อยละ54-59 ถือว่าป้องกันได้เพียงพอในพื้นที่ชุมชน หลังจากนี้กรมอนามัยจะทำคลิปวีดิโอสอนการทำหน้ากากผ้าอย่างถูกวิธีแจกให้ประชาชน และหากใครพบหน้ากากอนามัยไม่ได้คุณภาพ สามารถแจ้งข้อมูลไปได้ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคของแต่ละจังหวัด จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ