รัฐบาล อนุมัติงบกลางฯ วงเงิน 1,233 ล้านบาท เฝ้าระวังโควิด-19 เข้าสู่ระยะที่สาม

03 มีนาคม 2563, 17:25น.



          มาตรการควบคุมสถานการณ์โรคโควิด-19 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติวงเงิน 225 ล้านบาท จากงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นปี 2563 ให้กระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)ไปผลิตหน้ากากผ้า 50 ล้านชิ้น แจกให้ประชาชนทั่วประเทศ พร้อมทั้งอนุมัติงบกลางประจำปี 2563 วงเงิน 1,233 ล้านบาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดำเนินการเตรียมความพร้อมและป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้อยู่ในวงจำกัดไว้ที่ระยะที่สอง ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคมนี้ รวมถึงเตรียมมาตรการควบคุมและเฝ้าระวังและป้องกันการเข้าสู่ระยะที่สามไว้ด้วย



         ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.ส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะมอบเงินเดือนตัวเองเข้ากองทุนช่วยเหลือแก้ไขปัญหาโรคโควิด-19  คนละ 1 เดือนก่อนเริ่มจากสิ้นเดือนนี้ เพื่อสมทบกับเงินงบประมาณที่ได้จัดสรรก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ นายกฯ ได้เงินเดือนอยู่ที่ 125,590 บาท ขณะที่ รองนายกฯ อีก 4 คน ได้เงินเดือน 119,920 บาท รัฐมนตรีคนอื่นๆได้เงินเดือน 115,740 บาท รัฐมนตรีช่วยได้เงินเดือน 113,560 บาท



         ส่วนการจัดสรรหน้ากากอนามัย ปัจจุบันมีโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย 11 โรงงาน มีกำลังผลิต 30 ล้านชิ้นต่อเดือน เฉลี่ยวันละล้านกว่าชิ้น จำนวนนี้ต้องจัดสรรให้กระทรวงสาธารณสุข ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ 350,000 ชิ้นต่อวัน ส่วนที่เหลืออีก 700,000 ชิ้น ย้ำว่า ต้องกระจายและจำหน่ายไปให้ประชาชนทุกพื้นที่ ทั้งร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านประชารัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าและรายงานการผลิต การกระจายสินค้า ระมัดระวังเรื่องการกักตุนสินค้า แม้มีการจับกุมดำเนินคดีไปกว่า 51 คดี ในการจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา มีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี  และปรับ 140,000 บาท จึงขอเตือนว่าการหลอกลวงขายหน้ากากอนามัยออนไลน์ รัฐบาลติดตามในรายละเอียดทุกอย่าง นายกรัฐมนตรี ห่วงการกำจัดหน้ากากอนามัย แม้ใช้ครั้งเดียวแต่ก็เป็นขยะติดเชื้อ แต่ยังคงเห็นทิ้งรวมกับขยะทั่วไป อยากให้ทุกคนช่วยกันคัดแยกให้ดี



 




 

ข่าวทั้งหมด

X