ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม 2563

02 มีนาคม 2563, 20:31น.


นายกฯ เน้นย้ำให้เหล่าทัพเตรียมพร้อมเครื่องมือทางการแพทย์รับโควิด-19




          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประชุมวาระพิเศษกับผู้บัญชาการเหล่าทัพที่กระทรวงกลาโหม เน้นย้ำให้ทุกเหล่าทัพจัดเตรียมโรงพยาบาลสนามและเครื่องมือทางการแพทย์ให้มีความพร้อม และให้อบรมบุคลากรแพทย์ทหารให้มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน




รมว.พาณิชย์ ยืนยันเร่งรัดการผลิตหน้ากากอนามัยเพิ่มเติม



          นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ได้รายงานให้นายกฯรับทราบเรื่องการเร่งรัดการผลิตเพิ่มเติม แต่ตอนนี้ วัตถุดิบหลายส่วนต้องนำเข้ามาจากจีน ตอนนี้ติดขัด บางส่วนจึงต้องนำเข้ามาจากอินโดนีเซียแทน



สธ.กระจายหน้ากากอนามัย 1,200,000 ชิ้น ให้ 12 เขตสุขภาพ



          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้มอบหน้ากากอนามัย 1,400,000 ชิ้น บรรเทาความเดือดร้อน โดยแจกให้กับประชาชนฟรีคนละ 3 ชิ้น ที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นเวลา 2 วัน ในวันที่ 2-3 มี.ค. 2563 รวม 200,000 ชิ้น มีจุดบริการที่กรมต่าง ๆ จำนวน 9 กรม ได้แก่ กรมควบคุมโรค กรมอนามัย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กรมสุขภาพจิต และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่ออำนวยความสะดวก และอีก 1,200,000 ชิ้น จะนำไปแจกให้ประชาชนในจังหวัดต่างๆ โดยมอบให้ 12 เขตสุขภาพ เขตสุขภาพละ 100,000 ชิ้น นอกจากนี้ ได้ให้กระทรวงสาธารณสุข จัดส่งให้โรงพยาบาลในสังกัด จำนวน 500,000 ชิ้น ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนหน้ากากอนามัยที่องค์การเภสัชกรรม จำหน่ายให้แก่ประชาชนวันละ 10,000 ชิ้น เป็นจำนวนที่เกินจากการจัดสรรให้กับโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 



ปลัดแรงงาน เผย ผีน้อยขอกลับไทยวันละ 250 คน  




          กรณีแรงงานไทยที่ลักลอบเข้าประเทศเกาหลีใต้ผิดกฎหมาย ต้องการจะเดินทางกลับไทย นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน ระบุว่า อย่ากังวลเรื่องที่เดินทางไปอย่างผิดกฎหมาย ถ้าเกิดการเจ็บป่วยขึ้นจริง สำคัญสุดคือชีวิต ซึ่งเรามีการประสานงานกับสถานทูตและกรมแรงงานให้ดูแลคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นตามกฎหมายหรือผิดกฎหมายอย่างเต็มที่ กระทรวงแรงงานและกระทรวงต่างประเทศ ต้องให้ความคุ้มครองทั้งสิ้น คนที่ต้องการกลับไทยขอให้ทำตามระเบียบตามกระบวนการคัดกรอง การตรวจสอบตามกระทรวงสาธารณสุขของประเทศเกาหลีให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงการสาธารณสุขของประเทศเกาหลี และประเทศไทยก็อยากจะให้ทุกคนเคารพการคัดกรองของประเทศไทยเช่นกัน



          แรงงานไทยที่ขอกลับเข้าประเทศทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2562-23 กุมภาพันธ์ 2563 อยู่ที่ 4,067 คน และตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมา มีแรงงานผีน้อยขอกลับไทยเฉลี่ยวันละ 250 คน ช่วงนี้ทางการไทยและเกาหลีใต้ มีข้อตกลงว่า เมื่อกลับมาแล้วจะไม่มีการปรับหรือการขึ้นแบล็กลิสต์ และจะให้โอกาสกลับไปทำงานอย่างถูกต้อง หากเดินทางกลับมาจะต้องเข้าสู่กระบวนการคัดกรองอย่างเต็มรูปแบบก่อนเดินทางกลับภูมิลำเนา



          ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขณะที่แรงงานถูกกฎหมายจากข้อมูลเดือนมกราคม 2563 มีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศเกาหลี จำนวน 22,257 คน เมื่อแรงงานไทยเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว ทุกคนจะต้องตรวจคัดกรองที่ด่านคัดกรองที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตามมาตรฐานเดียวกันของกระทรวงสาธารณสุข กรมจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จะตรวจสอบสิทธิประโยชน์ของแรงงานทุกคนว่าแต่ละคนเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศหรือไม่ หากเป็นสมาชิกกองทุน จะได้รับเงินค่าช่วยเหลือเยียวยาคนละจำนวน 15,000 บาท ซึ่งจะต้องเป็นประเทศที่ได้ประกาศเป็นโรคระบาดแล้ว



ประกาศเตือนคนยูเออี งดเว้นเดินทางมาที่ประเทศไทย



          สถานอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์  ประกาศเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ห้ามเดินทางไปประเทศไทยใช้บังคับเฉพาะบุคคลสัญชาติยูเออีเท่านั้น และหน่วยงานของยูเออี ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการห้าม กักตัวผู้ที่เคยเดินทางไปประเทศไทยในการเดินทางเข้ายูเออี  เนื่องจาก สถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19  ทั่วโลกมีความรุนแรงขึ้น และเพื่อสกัดและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศ ยูเออี จึงได้เพิ่มมาตรการคัดกรองคนเข้าประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสทุกประเทศ ทำให้มีผู้โดยสารบางรายที่เดินทางมาจากประเทศไทยถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของยูเออีกักตัวเพื่อดูอาการ และตรวจร่างกายตามดุลยพินิจที่เจ้าหน้าที่ยูเออี มีอำนาจหน้าที่พึงสามารถกระทำได้ อย่างไรก็ดี พบว่า การกักตัวในชั้นนี้ ยังเป็นการกักตัวระยะสั้น 3-6 ชั่วโมง และได้รับการปล่อยตัวเข้าประเทศต่อไป สถานเอกอัครราชทูต ขอให้บุคคลสัญชาติไทยโปรดให้ความร่วมมือกับมาตรการ การดำเนินการต่าง ๆ ของทางการยูเออี รวมถึงการตรวจร่างกาย และให้ข้อมูลที่ครบถ้วนแก่เจ้าหน้าที่เมื่อถูกซักถาม หรือกักตัว สถานเอกอัครราชทูต ขอแนะนำให้คนไทยเลื่อนการเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส รวมถึง ประเทศไทย ในระยะนี้ หากไม่มีความจำเป็นจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะเริ่มคลี่คลาย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ของหน่วยงานยูเออีที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งการถูกกักตัว และการห้ามเข้าประเทศ




ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ในอิตาลี เพิ่มขึ้น 50%  



          การระบาดของเชื้อโควิด-19 ในอิตาลี นายอันเจโล บอร์เรลลี หัวหน้าหน่วยงานปกป้องพลเรือนของอิตาลี เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 34 ราย และ ผู้ป่วยติดเชื้อ 1,694 คน เป็นพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาดมากที่สุดนอกประเทศจีนและเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดในยุโรป เมื่อวานนี้ ตัวเลขผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 50 เป็น 1,694 คน เมื่อเทียบจากเมื่อวันเสาร์ 1,128 คน รัฐบาลท้องถิ่นในหลายเมืองและเทศบาลทางภาคเหนือของประเทศเริ่มใช้มาตรการกักกัน ห้ามประชาชนเข้าหรือออกจากบางพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาด ซึ่งในภาพรวมมาตรการนี้กระทบประชาชนราว 100,000 คน ขณะเดียวกัน ประชาชนส่วนใหญ่ในอิตาลี ต่างสวมหน้ากากอนามัย ไม่ว่าจะเดินอยู่ตามท้องถนน,เข้าร่วมกิจกรรมทางกีฬาและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นับแต่โรคโควิด-19 เริ่มระบาดในอิตาลี เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ประชาชนจำนวนมากไปซื้อหน้ากากอนามัยและน้ำยาทำความสะอาดตามร้านค้าในอิตาลี ประชาชนส่วนใหญ่ทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เช่น เลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมากๆ ทำให้ร้านอาหาร รวมถึงร้านเปียซซ่า เดล ดูโอโม ใจกลางเมืองมิลาน ตามปกติมีลูกค้าจำนวนมาก แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แทบจะไม่มีลูกค้าเลย  ส่วนประเทศอื่นๆรวมถึงสหรัฐฯ จำกัดการเดินทางไปและกลับจากอิตาลี เฉพาะสายการบิน 2 แห่งของสหรัฐฯระงับเที่ยวบินจากสหรัฐฯไปยังเมืองมิลานชั่วคราวจนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง



ธปท.เผย 3 สาเหตุ ทำให้ส่งออกเดือนม.ค.ลดลงมาที่ 1.3%



          ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ประจำเดือนมกราคม 2563 ว่าอยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่องเช่นเดียวกับการส่งออก การผลิตภาคอุตสาหกรรม การลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐ และการบริโภคภาคเอกชน  นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. ระบุว่า การส่งออกเดือนมกราคมหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 1.3 จาก 3 สาเหตุหลัก เช่น การส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวที่เจอปัญหาภัยแล้งทำให้ผลผลิตลดลง และการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่กลับมาหดตัว ส่วนการลงทุน ภาคเอกชนหดตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการซื้อทั้งในและต่างประเทศชะลอตัวประกอบกับความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ยังไม่ดี ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนก็ชะลอตัวต่อเนื่องจากระยะเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความล่าช้าของพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ส่วนการบริโภคภาคเอกชนชะลอลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายได้ที่ยังมีปัญหา และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงต่อเนื่อง แม้รายได้เกษตรกรจะขยายตัวสูงในเดือนนี้ แต่แนวโน้มทั้งปี คาดว่า จะหดตัวจากปัญหาภัยแล้ง ส่วนมูลค่านำเข้าสินค้าทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน



          ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เดือนมกราคมปีนี้ ขยายตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อนที่ร้อยละ 2.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามจำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซีย รัสเซีย และฮ่องกง ที่เข้ามาเที่ยวไทยช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่นักท่องเที่ยวจีนหดตัวลงมาก จากการที่รัฐบาลจีน ไม่ให้ประชาชนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ หลังเกิดการระบาดเชื้อโรคโควิด-19 ในประเทศ ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 1.05 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปรับลด 4.80 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,335.72 จุด มูลค่าการซื้อขาย 74,368.85 ล้านบาท



สตช.- กทม.ดำเนินคดีวินจักรยานยนต์ ทะเลาะกับพนักงาน Grabbike




          การดำเนินคดีกับกลุ่มวินจักรยานยนต์รับจ้างและพนักงาน Grabbike บริเวณซอยสุขุมวิท 48 ที่ทะเลาะกันเรื่องการแย่งลูกค้า พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่า เป็นเหตุการณ์ที่คนขับ Grabbike ขับมารับผู้โดยสารที่จุดเกิดเหตุ จากนั้นคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างเบอร์ 26 ซึ่งเป็นวินรับจ้างปากซอยสุขุมวิท 48 ขับรถเข้ามาปาดหน้ารถของ Grabbike และบอกว่าไม่ให้มารับในนี้ จากนั้นมีการโต้เถียงกัน และมีคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอีก 2 คนเข้ามาร่วมทำร้ายร่างกายด้วย หลังเกิดเหตุคนขับ Grabbike ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสน.คลองตันแล้ว ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบ ก่อนนำตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาสอบสวนที่สน.คลองตัน  เบื้องต้น กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่พอใจที่คนขับ Grabbike รับลูกค้าตัดหน้า ตำรวจได้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ 3 คน ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ  ผู้เสียหายยินยอมให้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คนละ 1,000 บาท และให้ชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาล เป็นเงิน 3,000 บาท



          ส่วนคนขับ Grabbike เป็นการนำรถส่วนบุคคลมาให้บริการลักษณะรับจ้างใช้รถผิดประเภท ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 23/1 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และ กรณีคนขับรถไม่มีใบขับขี่สาธารณะ มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ตำรวจกวดขันจับกุมมาโดยตลอด แต่การทำร้ายร่างกายผู้อื่นจะด้วยเหตุที่ไม่พอใจ รับลูกค้าตัดหน้าหรือมาแย่งลูกค้าของกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์รับจ้างสาธารณะ เป็นความผิดทางอาญา มีโทษทั้งจำทั้งปรับ



          ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร(กทม.) ระบุว่า กทม.ในฐานะที่กำกับดูแลวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ จะเสนอให้ใช้มาตรการยึดเสื้อวินกับคนที่ทำผิด เนื่องจาก เป็นการกระทำความผิดเข้าข่ายความประพฤติไม่เหมาะสม ในช่วงเช้าพรุ่งนี้ กทม.จะเชิญคณะอนุกรรมการ 4 ฝ่าย ประจำพื้นที่เขตคลองเตย ร่วมประชุมที่ฝ่ายเทศกิจ ชั้น 3 สำนักงานเขตคลองเตย เพื่อดำเนินการสอบสวนและพิจารณาการลงโทษผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน




เกาหลีเหนือ ไม่สนใจโควิด-19 ทดลองขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูก



          คณะเสนาธิการร่วมของกองทัพเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ทดลองขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูกจากฐานยิงขีปนาวุธในเมืองวอนซาน ทางภาคตะวันออกของเกาหลีเหนือในวันนี้ ระบุว่าขีปนาวุธพุ่งออกจากฐานยิงไปทางตะวันออกเป็นระยะทาง 240 กม.และพุ่งสูงจากพื้นดิน 35 กม.ก่อนตกลงในทะเล  การทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือมีขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังพ้นระยะเวลาที่เกาหลีเหนือขอให้สหรัฐฯผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรให้กับเกาหลีเหนือเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน นับเป็นการทดลองขีปนาวุธครั้งแรกของเกาหลีเหนือในรอบกว่า 3 เดือน 



          ด้านรัฐมนตรีความมั่นคงของเกาหลีใต้ แสดงความกังวลที่เกาหลีเหนือ ยังคงเดินหน้าทดลองขีปนาวุธเช่นนี้ ซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียดทางทหาร ส่วนกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น ระบุว่า ยังไม่มีหลักฐานชี้ว่า ขีปนาวุธลูกนี้ตกในน่านน้ำหรือเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่น ถือว่าการทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่อาจจะกระทบความมั่นคงของญี่ปุ่น



ตร.ฟิลิปปินส์ เร่งเจรจาคนร้าย จับคนในห้างเป็นตัวประกัน



          ความคืบหน้าเหตุการณ์ที่อดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทเซฟการ์ด อาร์เมอร์ ซิเคียวริตี้ คอร์ปอเรชั่น (SASCOR) ที่ถูกเลิกจ้าง ก่อเหตุกราดยิงและจับคน 30 คน เป็นตัวประกัน ภายในห้างสรรพสินค้าวี-มอลล์ (หรือเวอร์รา มอลล์) ในย่านกรีนฮิลส์ ในเทศบาลซานฮวน จังหวัดลายูเนียน ตัวประกันที่ถูกจับมีทั้งพ่อค้า พนักงานของห้าง ถูกจับตัวไว้ที่สำนักงานฝ่ายบริหารของห้างซึ่งอยู่ที่ชั้น 2 ของห้าง



          สำนักข่าวแรปป์เลอร์ นิวส์ ของฟิลิปปินส์ รายงานอ้างนายฟรานซิส ซาโมรา นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ ว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา13.00น. มีรายงานคนในห้างสรรพสินค้าได้รับบาดเจ็บ 1 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลคาร์ดินัล ซันโตส เมดิคอล เซ็นเตอร์ อาการทรงตัว ผู้บริหารห้างสรรพสินค้า ประสานตำรวจท้องถิ่น เข้าไปควบคุมสถานการณ์ ปิดกั้นพื้นที่เร่งเจรจากับคนร้าย เบื้องต้น คนร้ายขอให้ตำรวจประสานให้คนร้ายได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานในบริษัทผ่านระบบวิดีโอคอล จากนั้นจะขอคุยกับสื่อมวลชน คนร้ายถูกไล่ออกจากงาน เนื่องจาก ขาดงานมาหลายสัปดาห์โดยไม่ลากิจให้ถูกต้องตามระเบียบของบริษัท ตำรวจอยู่ระหว่างเจรจากับคนร้ายเพื่อคลี่คลายเหตุการณ์โดยเร็ว



          สถานการณ์เวลา 16.45 น. มีรายงานว่า คนร้ายเรียกร้องให้ผู้บริหาร 4 คน ของบริษัทดูแลความปลอดภัยภายในห้างสรรพสินค้าลาออก ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังคงปิดล้อมจุดที่คนร้ายจับคนในห้างเป็นตัวประกัน ล่าสุด ผู้บริหาร 4 คน ยอมลาออกแล้ว



CR:แฟ้มภาพจากกรมการค้าภายใน 



 

ข่าวทั้งหมด

X