เศรษฐกิจโลกเข้าใกล้วิกฤติ หลังโคโรนาไวรัสระบาดกว้าง

          การระบาดของโคโรนาไวรัสอาจจะทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าใกล้สู่ระดับวิกฤติ หลังจากที่หลายประเทศใช้มาตรการปิดเมือง ปิดร้านค้า สวนสนุก ยกเลิกงานคอนเสิร์ต การประชุมสัมมนา ผู้คนงดเดินทาง ส่งผลต่อการจ้างงาน และผลประกอบการของหลายบริษัททั่วโลก ขณะที่ยังมีความตื่นตระหนกที่ทำให้ประชาชนเร่งซื้อหาสินค้าจำเป็นมากักตุน

          นักเศรษฐศาสตร์จากโกล์ดแมน แซคส์ คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะปรับลดลงในไตรมาสแรกของปีนี้ และจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่สอง ซึ่งจะช่วยชดเชยความถดถอยได้ ขณะที่ นักเศรษฐศาสตร์จากอีกหลายสถาบันคาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะลดลงเหลือร้อยละ 2.4 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจโลกปี 2552 และต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 3 โดยในจีนกิจกรรมในภาคการผลิตของจีนของเดือนกุมภาพันธ์ ลดลงไปที่ 35.7 ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 12 ปี และเมื่อวันเสาร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขอให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ลดดอกเบี้ยลงไปอีก เพื่อให้เกิดผลทางด้านจิตวิทยา เนื่องจากในสัปดาห์ที่แล้วตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างหนัก แต่นายเจอร์โรม พาวเวล ประธานเฟด บอกว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังเข้มแข็ง และจะใช้เครื่องมือของเฟด เข้าช่วยเหลือเมื่อมีความจำเป็น

          ด้านนายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 1 ปีนี้จะต่ำสุดของปี 2563 และหากไวรัสโควิด-19 ระบาดทั้งปี ก็เป็นไปได้ที่เศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตเพียงร้อยละ 1 แต่หากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย กิจกรรมต่าง ๆ ก็จะกลับมาเป็นปกติได้

...