ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563

27 กุมภาพันธ์ 2563, 10:20น.



กรมการค้าภายใน เรียกผู้ผลิต ชี้แจงไม่แจ้งสต๊อก-ไม่ปันส่วนหน้ากากอนามัย




          นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน เรียกผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ที่ไม่ยอมแจ้งสต๊อกหน้ากากอนามัยที่อยู่ในครอบครอง และไม่ยอมปันส่วนหน้ากากอนามัย มาให้กรม ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.)จำนวน 63 ราย แบ่งเป็นผู้ไม่ยอมแจ้งสต๊อก 47 ราย และไม่ปันส่วนหน้ากากอนามัยมาให้กับกรมการค้าภายใน อีก16 ราย ขณะเดียวกันก็ดำเนินการจับกุมผู้ค้าหน้ากากอนามัยที่ขายสินค้าราคาแพงเกินจริง ล่าสุด ได้จับกุมได้แล้ว 39 ราย ในจำนวนนี้เป็นการขายทางออนไลน์ 5 ราย และเป็นร้านค้าทั่วไป 34 ราย ซึ่งได้ส่งดำเนินคดีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ฐานความผิดตามมาตรา 29 ในข้อหาค้ากำไรเกินควร รวม 26 ราย มีโทษตามกฎหมายสูงสุด คือ จำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท ซึ่งกรมการค้าภายใน ยืนยันว่า จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในลักษณะนี้ทุกราย เพราะถือเป็นการเอาเปรียบประชาชนในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ  โดยในส่วนที่ไม่แจ้งสต๊อก ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าไม่มีสินค้าในมือ ก็เลยไม่แจ้ง ซึ่งตามกฎหมาย จะไม่แจ้งไม่ได้ โดยกรมการค้าภายใน จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาทจนกว่าจะแจ้ง ส่วนรายที่ไม่ยอมปันส่วนก็จะเรียกมาถามเหตุผลต่อไป ซึ่งหากพบว่ามีสินค้า แต่ไม่ยอมปันส่วนจะมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท 



          ส่วนการระบายหน้ากากอนามัยของศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัย ขณะนี้ได้รับการปันส่วนจากผู้ผลิตและผู้จำหน่ายได้ประมาณวันละ 500,000 ชิ้น ซึ่งได้มีการกระจายต่อให้กับหน่วยงานที่มีความจำเป็นต้องใช้ อย่างองค์การเภสัชกรรม การบินไทย สมาคมร้านขายยา และนำไปจำหน่ายให้กับประชาชนที่กระทรวงพาณิชย์ ส่งจำหน่ายผ่านร้านธงฟ้าจำนวน 1,140 แห่งทั่วประเทศ และล่าสุดได้กระจายผ่านร้านสะดวก



ปธ.สภาฯ แจ้งให้สมาชิกมีอาการไม่สบายไปตรวจสุขภาพ



          หลังจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งเตือนว่า ชาวบ้านกำลังจับตาดูอยู่ หากมีผู้อภิปรายเกินเวลา และเชิญชวนสมาชิกทุกคนร่วมกันทำการเมืองสุจริต ขอให้ทุกคนประพฤติปฏิบัติในลู่ทางที่นักการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยควรจะเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งต่อสมาชิกว่าสำนักบริการทางแพทย์ร่วมกับสำนักบริการความปลอดภัย จะทำความสะอาดภายในห้องประชุมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเวลา 07.00 น. วันนี้ เจ้าหน้าที่จะเริ่มทำการเช็ดพื้น โต๊ะ เก้าอี้  ไมโครโฟน ปุ่มกดลิฟท์ และอื่นๆเป็นต้นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและเมื่อคืนนี้ได้ติดต่อสมาชิกที่คาดว่าจะมีอาการไข้ ให้ไปตรวจอาการที่สถาบันบําราศนราดูร



ก.ล.ต.ประสานตลาดหลักทรัพย์ ดูหุ้นไทยลดลงตามหุ้นทั่วโลก  




+++น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวานนี้ เป็นผลจากความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งน่าจะมีผลต่อบางอุตสาหกรรม และเป็นการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นทั่วโลก ก.ล.ต.ได้ประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพบว่าระบบการซื้อขายและชำระราคาของธุรกิจหลักทรัพย์สามารถดำเนินการได้ตามปกติ ทั้งนี้ พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะช่วยทำให้เกิดการลงทุนและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ ขอแนะนำให้ผู้ลงทุนติดตามและศึกษาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุนอย่างรอบคอบ



+++ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดตลาด 26 ก.พ. ปิดตลาดที่ 1,366.41 จุด ลดลง 72.69 จุด หรือร้อยละ 5.05  เนื่องจากนักลงทุนกังวลโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในหลายประเทศ เช่น แอฟริกา ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ รวมถึงไทยที่พบครอบครัวผู้ติดเชื้อไวรัส หลังจากที่ปู่ ย่าเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นและนำเชื้อมาแพร่ระบาดให้กับหลานชายอายุ 8 ขวบ ทำให้ดัชนีหุ้นไทย ลงมามากกว่าภูมิภาคที่เฉลี่ยปรับตัวลงเพียงร้อยละ 1-2  อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 24 -26 ก.พ.หุ้นไทยปรับตัวลง 130 จุดหรือประมาณร้อยละ 8.6



หุ้นสหรัฐฯ- ทองคำ ปรับลดลงห่วงโควิด-19 



+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดผสมผสาน หุ้นดาวโจนส์ และ เอสแอนด์พี 500 ยังคงปรับลดลง นักลงทุนกังวลเรื่องแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในนิวยอร์ก หลังจากเจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า กำลังสังเกตอาการประชาชนเกือบ 100 คน ที่เคยเดินทางไปเยือนจีน ดาวโจนส์ ลดลง 123.77 จุด ปิดที่ 26,957.59 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 11.82 จุด ปิดที่ 3,116.39 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 15.16 จุด ปิดที่ 8,980.77 จุด



+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.52 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ตลาดน้ำมันยังคงกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกประเทศจีน และผลกระทบต่ออุปสงค์พลังงาน แม้คลังน้ำมันดิบสำรองรายสัปดาห์ของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดหมายไว้

+++ราคาทองคำ ปิดลดลงต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ลดลง 6.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,643.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์




แฟ้มภาพ  

ข่าวทั้งหมด

X