น้ำท่วมหนักในกรุงจาการ์ตา อินโดฯ เสียชีวิต 5 ราย
สถานการณ์น้ำท่วมในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย นายอากุส วิโบโว โฆษกสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิต 5 ราย รวมถึง เด็กวัยรุ่น 2 รายที่จมน้ำเสียชีวิต หรือถูกไฟฟ้าช็อต เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย กำลังค้นหาผู้สูญหายอีก 3 คน น้ำท่วมฉับพลันทำให้ประชาชนเกือบ 20,000 คน ไม่สามารถกลับเข้าบ้านที่ถูกน้ำท่วมได้ ต้องอาศัยพักพิงอยู่ตามศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินของทางการ
จาการ์ตา มีประชากรราว 11 ล้านคน หรือ 31 ล้านคน หากรวมเมืองบริวารรายรอบ ทุกปีในช่วงฤดูฝนมีปัญหาน้ำท่วมขังและเมื่อรวมกับปัญหาการจราจรติดขัดปัญหาของระบบสาธารณูปโภคทำให้ต้องติดตามสถานการณ์ เมื่อปีที่แล้วประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ผู้นำคนปัจจุบัน ประกาศแผนย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่ใหม่ ในจังหวัดกาลิมันตันตะวันออกบนเกาะบอร์เนียว การก่อสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ มูลค่า 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1,045,170 ล้านบาท) บนเนื้อที่ 440,000 เอเคอร์ (1,113,200 ไร่) จะเริ่มในปลายปี 2564 และเริ่มย้ายเข้าในปี 2567
‘ทรัมป์’ ไม่พอใจหุ้นร่วง หลังมีคำเตือนเรื่องการระบาดของโควิด-19
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ทวีตข้อความ แถลงข่าวร่วมกับเจ้าหน้าที่จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อชาวอเมริกัน โดยเฉพาะนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังจากดัชนีดาวโจนส์ ทรุดตัวลง ท่ามกลางความวิตกของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ไปทั่วโลก หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า ผู้นำสหรัฐฯ แสดงความไม่พอใจที่เห็นว่าตลาดหุ้นทรุดตัวลง เชื่อว่า มีสาเหตุจากการที่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของสหรัฐฯ เตือนเรื่องการแพร่ระบาดทำให้นักลงทุนเกิดความตื่นตระหนกจนพากันเทขายหุ้นในตลาด ขณะที่ CDC เตือนให้ชาวอเมริกัน เตรียมพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ โดยกล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในสหรัฐฯอาจอยู่ในขั้นร้ายแรง ขณะนี้ สหรัฐฯมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประมาณ59 คน ในจำนวนนี้มีประมาณ 4 คนที่ติดเชื้อจากเรือสำราญไดมอนด์ ปรินเซส ผู้นำสหรัฐฯ กำชับเจ้าหน้าที่ไม่ให้คาดการณ์ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เนื่องจาก วิตกว่าจะทำให้ตลาดหุ้นร่วงลงต่อไป
ซานฟรานซิสโก ของสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉิน
นายลอนดอน บรีด นายกเทศมนตรีนครซานฟรานซิสโก ของสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉิน ยกระดับการเตรียมความพร้อมรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ว่า ซานฟรานซิสโก ยังไม่มีผู้ติดเชื้อแต่สถานการณ์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก ทำให้จำเป็นต้องยกระดับการเตรียมความพร้อม หลังจากที่ CDC เตือนชาวอเมริกันเตรียมพร้อมรับมือ โดยกล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในสหรัฐฯอาจอยู่ในขั้นร้ายแรง
บราซิล ติดตามอาการผู้ป่วยคล้ายติดเชื้อโควิด-19
กรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิล ระบุว่า การตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีขึ้นขณะที่บราซิลกำลังอยู่ในช่วงวันหยุด เฉลิมฉลองเทศกาลคาร์นิวัล ประจำปี ประชาชนหลายล้านคน ทั้งชาวบราซิลและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ร่วมกิจกรรมรื่นเริง รวมถึงการประกวดขบวนแห่เดินพาเหรดและเต้นรำ บนถนนในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ กระทรวงสาธารณสุขบราซิล กำลังตรวจสอบอาการป่วยของชายชาวบราซิล ในเมืองเซาเปาโล รายหนึ่ง ที่เดินทางไปเยือนแคว้นลอมบาร์เดีย ทางภาคเหนือของอิตาลี ระหว่างวันที่ 9-21 ก.พ.และมีอาการป่วยคล้ายผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา
ด้านโฆษกโรงพยาบาลอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในเมืองเซาเปาโล กล่าวว่า ผู้ป่วยชายคนนี้ ตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันจันทร์ จากนั้นในวันอังคาร โรงพยาบาลได้แจ้งเรื่องไปที่สำนักงานวิทยาการระบาด ในรัฐเซาเปาโล
ซูเปอร์มาร์เก็ตในกรุงปักกิ่ง ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายลูกค้า
สำนักงานพาณิชย์ประจำเทศบาลกรุงปักกิ่ง ของจีน ออกแถลงการณ์ ระบุว่า คนที่เข้าไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตจะต้องเว้นระยะห่างจากคนอื่นๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซูเปอร์มาร์เก็ตในกรุงปักกิ่งจะต้องดูแลให้ลูกค้าแต่ละคนอยู่ห่างกันเป็นพื้นที่อย่างน้อย 2 ตารางเมตร (4 ฟุต X 5 ฟุต) ซูเปอร์มาร์เก็ตจะต้องติดตั้งอุปกรณ์อัตโนมัติเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกายลูกค้า และป้องกันไม่ให้มีลูกค้าแออัดยัดเยียดในซูเปอร์มาร์เก็ต
ผู้ติดเชื้อในคูเวตเพิ่มขึ้น เกี่ยวพันกับกับประชาชนที่เดินทางไปอิหร่าน
ทางการคูเวต ห้ามเรือบรรทุกสินค้าจากเกาหลีใต้ อิตาลี ไทย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง และอิรัก เดินทางออกหรือเข้าเทียบท่าเรือในคูเวต ยกเว้นเรือบรรทุกน้ำมัน สามารถเข้าออกได้ตามปกติ เป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังสร้างความวิตกทั่วโลก ด้านโฆษกกระทรวงสาธารณสุขคูเวต ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 13 คน เป็น 25 คน โดยการติดเชื้อใหม่เกี่ยวพันกับประชาชนที่เดินทางไปอิหร่าน
สิงคโปร์ ดำเนินคดีชาวจีนจากอู่ฮั่น ปกปิดข้อมูลการเดินทาง
นายหู จุน วัย 38 ปี ชาวเมืองอู่ฮั่น ของจีน จุดศูนย์กลางของการแพร่ระบาดของโควิด-19 เดินทางมาที่สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 22 มกราคม ต่อมาถูกตรวจพบว่ามีอาการป่วยจากการติดเชื้อ แต่ในขณะนี้หายดีแล้วและได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล ขณะนี้ ภรรยาของเขาซึ่งเป็นชาวจีนเช่นกันแต่พักอยู่ในสิงคโปร์ ได้รับคำสั่งให้ถูกกักตัวไว้ตรวจสอบเชื้อไวรัส กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ กล่าวว่า ทั้งสองคนให้ข้อมูลเท็จกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการเดินทางและสถานที่อยู่ เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ สอบสวนว่าทั้งสองได้แพร่เชื้อโควิด-19 ให้ผู้อื่นหรือไม่ ทั้งสองคนถูกตั้งข้อหาดำเนินคดี เนื่องจากการกระทำของทั้งสองคนทำให้เกิดความเสี่ยงและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนหากพบว่ามีความผิดจริงทั้งสองคนจะถูกปรับไม่เกิน 7,150 ดอลลาร์สหรัฐฯและจำคุก 6 เดือน การติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ติดเชื้อไวรัสมีความสำคัญอย่างยิ่งในการตามหาว่าจะมีใครบ้างที่อาจจะสัมผัสกับผู้ติดเชื้อเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด-19
สิงคโปร์ พบผู้ติดเชื้อแล้ว 93 คน และได้ประกาศห้ามคนที่เคยเดินทางไปจีนหรือเกาหลีใต้เมื่อช่วง 2 สัปดาห์ที่แล้วเข้าประเทศ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพิกถอนสถานภาพของชายชาวต่างชาติที่อาศัยเป็นการถาวรในสิงคโปร์รายหนึ่ง เนื่องจากละเมิดคำสั่งให้อยู่ในบ้านเพื่อตรวจสอบว่าติดเชื้อไวรัสหรือไม่ หลังจากที่เพิ่งเดินทางไปจีน
แฟ้มภาพ