'อนุทิน'ย้ำยังไม่ยกระดับโควิด-19 ขึ้นระดับ 3 ของดไปพื้นที่เสี่ยง

          สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ยังอยู่ที่ระดับ 2 คือ แพร่ระบาดในวงจำกัดและสืบหาได้ว่าผู้ป่วยติดเชื้อมาจากที่ใด จะพยายามให้อยู่ระดับนี้ให้นานที่สุด แต่หากสถานการณ์เข้าสู่ระดับ 3 คือ แพร่ระบาดในวงกว้างและสืบทราบไม่ได้ว่าผู้ป่วยแต่ละรายติดเชื้อมาจากที่ใด ก็ต้องทำตามขั้นตอน ย้ำว่ารัฐบาลไม่ปกปิด ประกาศทุกอย่างตามความเป็นจริง คาดว่า วันนี้กระทรวงสาธารณสุขจะออกประกาศไม่ให้ข้าราชการของกระทรวงเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงในทุกกรณี พร้อมขอความร่วมมือหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนทุกหน่วยทำตามแนวทางนี้ด้วย เช่นเดียวกับสายการบินและกรุ๊ปทัวร์ต่าง ๆ อย่าออกโปรโมชั่นลดราคาเพื่อจูงใจคนไปเที่ยวในพื้นที่เสี่ยง ยอมรับว่ารัฐบาลไม่สามารถห้ามคนไทยเดินทางไปต่างประเทศหรือสั่งให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวชดเชยค่าเดินทางหรือค่าที่พักต่าง ๆ ให้กับคนไทยที่จองโปรแกรมไว้หรือสั่งห้ามชุมนุมได้ ทุกอย่างขึ้นกับวิจารณญาณ แต่ก็ขอให้งดไปก่อน พร้อมย้ำให้คนไทยที่กลับจากต่างประเทศกักตัวเองไว้ที่บ้าน 14 วัน ระวังการอยู่ร่วมกับคนในบ้าน หากขอความร่วมมือแล้วยังไม่ได้ผล อนาคตอาจกักตัวคนไทยทุกคนที่มาจากพื้นที่เสี่ยง 

          แพทย์กระทรวงสาธารณสุข เสริมว่า ส่วนหลานวัย 8 ขวบ ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 มาจากผู้ป่วยวัย 65 ปี จากการอยู่บ้านเดียวกันแล้วไปเรียนหนังสือ 1 วัน เจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบโรงเรียนพร้อมสั่งปิดการเรียนเฉพาะห้องที่นักเรียนคนนี้เรียนอยู่ ซึ่งมีนักเรียน 50 คน เป็นเวลา 14 วัน และขอผู้ปกครองทุกคนห้ามพานักเรียนออกนอกบ้าน

          ด้านนายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เสริมว่า กรณีผู้ป่วยวัย 65 ปีนี้จัดว่าอันตราย เพราะไม่ถูกกักตัวไว้จึงไปแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ต่อ ตามเกณฑ์แล้วผู้ป่วย 1 คน สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้อย่างน้อย 10-20 คน แต่รายนี้ยังแพร่เชื้อให้หลานตัวเองคนเดียว ส่วนประเทศเสี่ยงที่ควรเลี่ยงการเดินทางไปตอนนี้มี 6 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศจีน, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อิหร่าน และอิตาลี และเขตปกครองพิเศษ 3 เขต คือ ไต้หวัน, มาเก๊า และฮ่องกง และกำลังติดตามสถานการณ์ในประเทศสหรัฐฯ ที่มีการแพร่ระบาดมากขึ้นด้วย