ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น. วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563

25 กุมภาพันธ์ 2563, 07:24น.


ยกระดับโควิด-19 โรคติดต่อร้ายแรงลำดับที่14



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลได้กำหนดแผนและเตรียมมาตรการเพื่อรองรับการแพร่ระบาดระยะที่ 3 แล้ว โดยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จะมีการประชุมพิจารณาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การควบคุมโรคติดต่อ เพื่อเตรียมพร้อมด้านกฎหมายในการรองรับการทำงานของเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเพื่อให้สามารถศึกษา วิจัย ผลิตและทดลองเวชภัณฑ์ รวมทั้งการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขในด้านอื่นด้วย



          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ประกาศโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ซึ่งไม่ได้แปลว่าไทยเข้าสู่การระบาดระยะที่ 3 แต่เป็นการประกาศเพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ เพิ่มขอบเขตการทำงานเพื่อชะลอหรือยืดระยะเวลาที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ระยะที่ 3 ไว้ให้นานที่สุด



         ก่อนหน้านี้ ไทยมีการประกาศโรคติดต่ออันตรายแล้ว 13 โรค ได้แก่ กาฬโรค, ไข้ทรพิษ, ไข้เลือดออก ไครเมียนคองโก, ไข้เวสต์ไนล์, ไข้เหลือง, โรคไข้ลาสซา, โรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์, โรคติดเชื้อไวรัส มาร์บวร์ก, โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา, โรคติดเชื้อไวรัสเฮนดรา, โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือโรคซาร์ส, โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส และ วัณโรคดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก และโรคโควิด-19 จะเป็นลำดับที่ 14



          ซึ่งตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ระบุไว้ว่า กรณีที่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนคณะกรรมการโรคติดต่อมีอำนาจสั่งปิดสถานที่ หรือสั่งให้ผู้ป่วยหรือผู้ที่สงสัยว่าเป็นโรคหยุดการประกอบอาชีพชั่วคราว และสั่งห้ามผู้ป่วยหรือผู้ที่สงสัยว่าเป็นโรคเข้าไปในสถานที่บางแห่ง



ฝ่ายค้านระบุรัฐบาลล้มเหลวในการบริหารประเทศ



            ที่รัฐสภาในวันนี้ เป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษ ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งในการประชุมวันแรกเมื่อบ่ายวานนี้ (24 ก.พ.) เริ่มการประชุมด้วยการที่ประธานการประชุมแจ้งเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ เพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ทำให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ปฏิบัติหน้าที่ได้คือ 487 คน องค์ประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งคือ 244 คน และการอภิปรายจะจบในเวลา 19.00 น.ของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ทั้งเตือนว่า เอกสิทธิ์คุ้มครองสมาชิกเฉพาะการอภิปรายในห้องประชุมเท่านั้น แต่เมื่อมีการถ่ายทอดสด จึงขอให้สมาชิกระมัดระวังการพาดพิงไปถึงบุคคลที่สามบุคคลนอกห้องประชุม



          จากนั้นนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยเริ่มจากการอ่านญัตติเมื่อวันที่ 31 มกราคม และการระบุว่าไม่อาจไว้วางใจให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไปได้ เนื่องจากความไร้ประสิทธิภาพ มีความล้มเหลวในการบริหารประเทศ มีการทุจริต เอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง และใช้อำนาจโดยมิชอบ ทำให้ความล้มเหลว 5 ประการคือ ความล้มเหลวต่อการสร้างความเชื่อมั่นการเมืองในระบอบประชาธิปไตย, ความล้มเหลวในการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ, ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ, ความล้มเหลวในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น, และความล้มเหลวในภาวะความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี



          พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า ไม่เคยมีความคิดเรื่องการล้มล้างรัฐธรรมนูญ ส่วนเรื่องการขายที่ดินของบิดาก็เป็นที่ดินมรดก ซึ่งเป็นโฉนดมาตั้งแต่ปี 2482 และตกเป็นของปู่และย่าตั้งแต่ 2495 จากนั้นก็ เป็นสมบัติของบิดาในปี 2535 และมีการประกาศขายมาตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน มีการแจ้งในสมัยเป็นผู้บัญชาการทหารบก และเมื่อครั้งที่เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ตามกฎหมาย ป.ป.ช. แต่ยังไม่ได้เปิดเผย เพราะยังไม่สิ้นสุดหน้าที่



ครม.อนุมัติ 5 โครงการฟื้นฟูพื้นที่ภัยแล้ง-น้ำท่วม



          ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ที่ประชุมมีมติอนุมัติโครงการตามแผนปฏิบัติการฟื้นฟูเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงและอุทกภัย ปี 2562 วงเงิน 3,120.86 ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยเป็นการดูแลเกษตรกรต่อเนื่องหลังจากรัฐบาลได้เยียวยาเกษตรกรทั้งหมด 538,316 ราย ในพื้นที่ฝนทิ้งช่วง 19 จังหวัด และอุทกภัย 30 จังหวัด



          โดย 5 โครงการได้แก่โครงการส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกร, โครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าว ปี 2563/64, โครงการพัฒนาทางเลือกอาชีพด้านประมง, โครงการสร้างรายได้จากอาชีพประมงในแหล่งน้ำชุมชน, และโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ปีก เกษตรกรสามารถเลือกเข้าร่วมโครงการที่ไม่ตรงกับด้านที่ได้รับความเสียหาย และกรณีโครงการส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย และโครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าว ต้องเป็นพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย



ข่าวทั้งหมด

X