ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ว่าจะประกาศเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ลำดับที่ 14 หลังจากนี้จะมีการรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ จากนั้นจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมย้ำว่า การประกาศนี้เพื่อควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดในระยะที่ 3 เป็นการควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดในวงกว้าง และสามารถยกเว้นยาบางตัวที่เคยมีการวิจัยว่ารักษาหายได้ แต่ยังไม่มีการรับรองจากองค์การอาหารและยา
การประกาศในครั้งนี้จะสามารถรองรับเจ้าหน้าที่ให้มีเครื่องมือในการป้องกันและควบคุมโรค พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 34(1) ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อมีอำนาจในการดำเนินการ ผู้ใดที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดหรือผู้ที่เป็นผู้สัมผัสโรคหรือเป็นพาหะมารับการตรวจหรือรักษาเพื่อความปลอดภัย อาจดำเนินการโดยการแยกกักกัน หรือควบคุมไว้สังเกตจนกว่าจะได้รับการตรวจว่าพ้นระยะติดต่อของโรค มีกรณีตัวอย่าง เช่น ผู้ป่วยชาวต่างชาติ มารับการตรวจในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในไทย พบว่าเป็นไข้ แต่ไม่อนุญาตให้แพทย์กักกัน ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก หลังจากนี้ หากมีคนฝ่าฝืนจะถือว่ามีความผิด ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือมีกรณีหากจงใจแพร่เชื้อโรค ก็มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท เช่นกัน
สำหรับโรคติดต่ออันตรายที่ได้มีการประกาศไปแล้วทั้งหมด 13 โรค คือ 1.กาฬโรค 2.ไข้ทรพิษ 3.ไข้เลือดออกไครเมียนคองโก 4.ไข้เวสต์ไนล์ 5.ไข้เหลือง 6.โรคไข้ลาสซา ไข้เลือดออก 7.โรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์ 8.โรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก 9. โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา 10.โรคติดเชื้อไวรัสเฮนดรา 11.โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือโรคซาร์ส 12.โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส 13.วัณโรคดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก
....