ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น. วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563

24 กุมภาพันธ์ 2563, 12:56น.


สธ.เตรียมประกาศยกระดับ โควิด-19 ระบาดระยะ3



          บ่ายวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศยกระดับ เพื่อป้องกันไว้ก่อนเพราะกลัวว่าจะเกิดกรณีเหมือนอย่างที่เกาหลีใต้ คือคนที่ติดเชื้อแต่ไม่ยอมเข้ารับการรักษาจนทำให้เชื้อแพร่กระจาย ซึ่งการประกาศว่าโรคนี้เป็นโรคติดต่อและอันตราย ผู้ติดเชื้อจะปฏิเสธการตรวจรักษาไม่ได้ แต่ก็ต้องฟังความเห็นของคณะกรรมการและคณะแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อก่อน



อิตาลี ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ยกเลิกการจัดงานคานิวัล



          ทางการอิตาลีสั่งปิดโรงเรียนในกว่า 10 เมือง และยกเลิกจัดงานเวนิส คาร์นิวัล หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นอย่าง โดยการระบาดในอิตาลีมีจุดเริ่มต้นจากชายอายุ 38 ปี ที่แคว้นลอมบาร์ดี ทางตอนเหนือของประเทศ จากนั้นก็พบผู้ป่วยในแคว้นเวเนโต และในนครเวนิส ทำให้ต้องยกเลิกการจัดงานเวนิส คาร์นิวัล ที่มีกำหนดจัดงานไปจนถึงวันพรุ่งนี้ และให้เลื่อนการแข่งขันฟุตบอล กัลโช่ ซีเรีย อา 4 คู่



ออสเตรียสั่งระงับการเดินทางด้วยรถไฟจากอิตาลี



          กระทรวงกิจการภายในของออสเตรีย ประกาศระงับการเดินทางด้วยรถไฟทั้งหมดระหว่างอิตาลีและออสเตรีย หลังมีรายงานว่า พบผู้โดยสาร 2 รายที่อาจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีการประสานงานกับทางการอิตาลีเพื่อออกมาตรการอย่างจริงจัง พร้อมระบุว่าประชาชนไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก เนื่องจากออสเตรียมีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี



สายการบินเกาหลีใต้ ยกเลิกเที่ยวบินไปเมืองแทกู



          สายการบินหลายแห่งของเกาหลีระงับเที่ยวบินภายในประเทศที่ไปยังเมืองแทกู เริ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้ (23 ก.พ.) เนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อในเมืองที่มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเมืองใหญ่อันดับที่ 4 ของประเทศ มีประชากร 2 ล้าน 4 แสนคน กลายมาเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาด โดยในกลุ่มผู้ติดเชื้อ 763 คน มีอยู่ 636 คนที่อยู่ในเมืองแทกู



          นอกจากนี้ สายการบินโคเรียนแอร์ ระงับการให้บริการเส้นทางบินอินชอน-เทลอาวีฟ ไปจนถึงวันที่ 28 มีนาคม หลังจากที่อิสราเอลห้ามชาวต่างชาติเกือบ 180 คน เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ซึ่งในกลุ่มนี้เป็นชาวเกาหลี 130 คน



อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล



          บ่ายวันนี้ มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์



          นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าในการอภิปราย รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายสามารถตอบในช่วงใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตอบชี้แจงทันทีหรือรอให้ผู้อภิปรายให้เสร็จสิ้นก่อน ทุกอย่างต้องดำเนินไปตามระเบียบของสภา จะทำตามอำเภอใจไม่ได้ ทุกคนต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับการประชุมสภาฯ



          ทั้งนี้ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติยุบพรรคอนาคตใหม่ทำให้ฝ่ายรัฐบาลมี ส.ส. 263 เสียง ขณะที่ฝ่ายค้านมี 224 เสียง



          นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่าฝ่ายค้านเตรียมผู้อภิปรายไว้ 42 คน ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งจะอภิปราย นายกรัฐมนตรี



นายกฯ ประชุม ครม.



          ในวันนี้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่เลื่อนขึ้นมาจากวันพรุ่งนี้ โดยนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น (Digital Startup) ด้านเทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยว (TravelTech) โดย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม



          ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ครู และนักเรียนโรงเรียนเอกชนที่มีความรู้ความสามารถ ด้านจินตคณิตเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความสามารถในการคิดเลขเร็วในใจ ทั้งการบวก ลบ คูณ และหาร ซึ่งจะได้นำไปเป็นต้นแบบเพื่อพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนคณิตศาสตร์สำหรับโรงเรียนรัฐบาลต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงความชื่นชม และสนับสนุนให้มีการฝึกทักษะด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาสมอง เสริมสร้างการเรียนรู้ และขอให้บุคลากรด้านการศึกษาร่วมกันสร้างแรงจูงใจให้เด็ก ๆ ฝึกความสามารถในด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อเป็นแรงผลักดันในพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน



ส่งออกเดือนมกราคมบวกครั้งแรกในรอบ 6 เดือน



          น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศ ว่า การส่งออกไทยเดือนมกราคม 2563 มีมูลค่า 19,625.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 3.35 กลับมาเป็นบวกในรอบ 6 เดือน จากเดิมที่เคยประมาณการจะติดลบร้อยละ 3.1-2.9 ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 21,181.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบร้อยละ 7.86 ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล 1,555.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยทิศทางการส่งออกของไทยสะท้อนแนวโน้มเชิงบวกจากการลงนามข้อตกลงทางการค้าระยะแรก (Phase-1 Deal)ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ช่วยให้บรรยากาศการค้าดีขึ้นและคลายความกังวล ซึ่งคาดว่าปีนี้ภาพรวมส่งออกไทยจะเป็นบวกเล็กน้อย โดยสินค้าที่ได้รับผลกระทบภายใต้มาตรการสงครามการค้า อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ กลับมาขยายตัวทั้งในตลาดสหรัฐฯ และจีน อีกทั้ง สินค้าดาวรุ่งของไทยในภาคการผลิตจริง (Real Sector) หลายรายการ อาทิ ไก่สดแช่เย็น แช่แข็ง อาหารสัตว์เลี้ยง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป สิ่งปรุงรสอาหาร นมและผลิตภัณฑ์นม และเครื่องดื่ม ยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง



...

ข่าวทั้งหมด

X