นายกรัฐมนตรีจูเซ็ปเป้ ก็องเต้ ของอิตาลี ประกาศในระหว่างการแถลงข่าว วานนี้ (22 ก.พ.) ห้ามประชาชนเดินทางเข้าและออกจากพื้นที่ที่พบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หากไม่ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจากทางการ รวมทั้งกลุ่มธุรกิจและโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ก็ต้องปิดทำการเช่นกัน
การประกาศของนายกรัฐมนตรีอิตาลีมีขึ้น หลังจากมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2 ราย และมีผู้ติดเชื้อจำนวน 79 คน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากอยู่ในแคว้นลอมบาร์ดี โดยพบผู้ติดเชื้อ 54 คน และแคว้นเวเนโต 17 คน ขณะที่ทางการแคว้นลอมบาร์ดีและเวเนโตสั่งปิดโรงเรียน และห้ามจัดงานในที่สาธารณะ
ส่วนที่อิหร่าน ทางการสั่งปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาอื่นๆ ที่อยู่ในเมืองกอม และเมืองอารัก ตั้งแต่วันนี้ (23 ก.พ.) เป็นต้นไป หลังจากมีผู้เสียชีวิต 5 ราย จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตมากสุด ที่พบในพื้นที่นอกเขตตะวันออกไกล และพบผู้ติดเชื้อ 28 คนในอิหร่าน
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) แสดงความวิตกกังวลต่อการระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในอิหร่าน และการระบาดนี้อาจแพร่จากอิหร่านไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะเดียวกัน อิสราเอลและเลบานอนพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นรายแรกของทั้งสองประเทศ
ด้านทางการคูเวตเริ่มต้นดำเนินการเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เพื่ออพยพประชาชนมากกว่า 700 คน ออกจากอิหร่าน โดยสายการบินคูเวต แอร์เวย์ และสื่อคูเวต เปิดเผยวานนี้ (22 ก.พ.) ว่า อพยพประชาชนออกจากเมืองมาชฮัดของอิหร่าน ซึ่งเที่ยวบินแรกจากทั้งหมด 5 เที่ยว บรรทุกผู้โดยสาร 130 คน เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติคูเวตแล้ว
....