พณ.ห้ามส่งออกหน้ากากอนามัย เว้นติดตัวไปต่างประเทศไม่เกิน 30 ชิ้น

          จากปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลน นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เปิดเผยว่า เนื่องจากมีการเข้มงวดการขออนุญาตส่งออกหน้ากากอนามัย จึงมีผู้ที่พยายามแยกการส่งออกไม่ให้ถึง 500 ชิ้น เพื่อหลีกเลี่ยงเงื่อนไขการขออนุญาต กกร.จึงมีมติในการประชุมเมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) ห้ามการส่งออกหน้ากากอนามัย ยกเว้นได้รับการอนุญาตจากเลขานุการ กกร. โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (21 ก.พ.) เป็นต้นไป โดยการนำออกได้มีกรณีเดียวคือ การนำไปใช้เป็นการส่วนตัวไม่เกิน 30 ชิ้น/คน/ครั้ง ยกเว้นคนป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ให้นำติดตัวได้ไม่เกิน 50 ชิ้น

          สำหรับกรณีประเทศเพื่อนบ้าน หากมีความจำเป็นใช้ให้ติดต่อกระทรวงการต่างประเทศโดยตรง และกรมการค้าภายในจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการอนุญาตการส่งออกซึ่งหน้ากากอนามัย ที่มีผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงพาณิชย์ร่วมพิจารณาสำหรับการจัดสรรเพื่อให้ผู้ใช้มีปริมาณเพียงพอ ราคาเป็นธรรม

          ทั้งนี้ กรมการค้าภายในได้แจ้งผู้ครอบครองหน้ากากอนามัยจัดสรรให้กับศูนย์บริหารจัดการไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ในปริมาณที่ครอบครอง โดยกำหนดเวลาให้จัดสรรได้ภายในวันนี้ หากเลยวันนี้ไปแล้วจะฝ่าฝืนกฎหมาย กกร.มาตรา 25 (9) มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

          สำหรับหน้ากากอนามัย เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตส่งออกตั้งแต่ 500 ชิ้นขึ้นไป ซึ่งผู้ผลิต ผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่าย ต้องแจ้งปริมาณการเก็บสต๊อก ราคาซื้อขาย ต้นทุนการผลิต ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ และยังกำหนดให้ผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้จัดสรรหน้ากากอนามัย จำหน่ายให้กับศูนย์บริหารจัดการสินค้าหน้ากากอนามัยของกรมการค้าภายในจัดการกระจาย 5 ล้าน 5 แสน 5 หมื่นชิ้น  โดยกระจายให้องค์การเภสัชกรรม โรงพยาบาล 3 ล้าน 5 แสนชิ้น ร้านธงฟ้าลดค่าครองชีพ 1 ล้าน 8 แสนชิ้น การบินไทย 1 แสน 8 หมื่นชิ้น สมาคมร้านขายยา 1 แสน 7 หมื่น 5 พันชิ้น รวมเดือนกุมภาพันธ์ จำนวน 12 ล้านชิ้น

          สำหรับเดือนมีนาคมจะมีหน้ากากอนามัยเข้ามาในศูนย์ฯอีกไม่น้อยกว่า 15 ล้านชิ้น ส่วนการควบคุมการส่งออก มีผู้ค้าขออนุญาตส่งออกรวม 100 รายจำนวน 32 ล้าน 6 แสน 8 หมื่นชิ้น คณะอนุกรรมการพิจารณาการขออนุญาตการส่งออกซึ่งหน้ากากอนามัยที่กรมการค้าภายในได้พิจารณาที่จะให้ส่งออก โดยส่งออกได้เฉพาะหน้ากากที่มีคุณลักษณะหรือสเปคที่ไม่ได้ใช้ในเมืองไทย มีข้อจำกัดด้านลิขสิทธิ์ของเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ว่าจ้างผลิต และมีความพร้อมในการผลิตในสเปคที่ใช้ในเมืองไทยที่ป้อนให้ตลาดเมืองไทยเป็นลำดับแรก ถึงขณะนี้มีผู้ที่ได้รับการพิจารณาอนุญาต 1 ราย จำนวน 2 ล้าน 1 แสนชิ้น โดยผู้ส่งออกยอมรับเงื่อนไขที่จะผลิตให้ผู้ซื้อในประเทศไม่น้อยกว่า 7 ล้าน 2 แสนชิ้น ส่วนผู้ส่งออกรายอื่นยังไม่อนุมัติให้ส่งออก

....