นายกฯขอโทษ มอบหลวงปู่ทวดปลอบขวัญผู้บาดเจ็บจากเหตุรุนแรง
ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ เพื่อมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา และมอบเหรียญหลวงปู่ทวด ร่วมใจสร้าง มหาเจดีย์ พุทธคยา ให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ โดยเป็นเงินจากกองทุนผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งสิ้น 34 ล้าน 8 แสนบาท มอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งวันนี้มีผู้มารับเงินจำนวน 24 ราย จากทั้งหมด 27 ราย รายละ 1 ล้านบาท ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 19 ราย จาก 21 ราย รายละ 2 แสนบาท และผู้ได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส จำนวน 32 ราย จากทั้งหมด 36 ราย รายละ 1 แสนบาท ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้มารับจะประสานจ่ายเงินให้ตามภูมิลำเนา นอกจากนี้ ยังมีเงินเยียวยาเหยื่ออาชญากรรมตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาตามกฎหมาย ส่วนการให้ความช่วยเหลือ และเยียวยาทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย ยังอยู่ระหว่างการสำรวจของจังหวัด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในฐานะคนโคราช ตัวแทนคนไทย และผู้ร่วมบริจาค ขอแสดงความเสียใจ พร้อมน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยหวังให้ทุกคนน้อมนำ เพื่อก้าวผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยสติ สามัคคี อย่างเข้มแข็ง เงินที่ได้รับเป็นน้ำใจของคนไทย จึงอยากจะขอให้ทุกคนใช้เงินอย่างคุ้มค่า ในการดำเนินชีวิต และหวังให้ชาวโคราชกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขต่อไป จากนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวขอโทษและขออภัยที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมดูแล และแก้ปัญหา เพื่อให้ชาวโคราชและคนไทยมีความสุข
ส่งคนไทยจากอู่ฮั่น 137 คน กลับภูมิลำเนา
คนไทยที่กลับมาจากอู่ฮั่น และถูกกักตัวเพื่อคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่อาคารรับรองกองทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เดินทางกลับบ้านได้แล้ว หลังจากที่ครบกำหนดกักตัว 14 วัน นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งทั้ง 137 คน ส่งตรวจครั้งสุดท้ายเย็นวานนี้ผลเป็นลบทุกคน ส่วนอีก 1 คน ยังเฝ้าระวังต่อเนื่องที่โรงพยาบาลชลบุรี
หลังจากนี้จะมีการทำความสะอาดโดยผู้เชี่ยวชาญจากกรมแพทย์ทหารเรือ กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ รวมถึงจากกระทรวงสาธารณสุข เป็นเวลา 10 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 19-28 กุมภาพันธ์ จากนั้นในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ จะเปิดให้บริการได้ตามปกติ ส่วนอาคารที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกักตัวคนไทย จะทำความสะอาดและเปิดให้บริการได้ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์
ธปท.ทบทวนคาดการณ์ GDP ในการประชุมกนง.เดือนมี.ค.
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ธปท.จะมีการทบทวนประมาณการเศรษฐกิจไทยใหม่อีกครั้ง ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง.ในเดือนมีนาคมนี้ หลังจากที่มีการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2563 จะขยายตัวได้ร้อยละ 2.8 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสศช.ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ลงเหลือร้อยละ 1.5-2.5
ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดี "พนม-พวก" ทุจริตงบฯ พศ.
ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เบิกตัวนายพนม ศรศิลป์ อายุ 60 ปี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จากเรือนจำมาฟังคำพิพากษา คดีทุจริตการจัดสรรเงินงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตามที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพนม และพวกเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่น โดยทุจริตหรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต,เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด จากการที่ในระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม 2558 - 22 กรกฎาคม 2559 พวกจำเลยได้เบียดบังเอาเงินงบประมาณของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประจำปี 2559 จำนวน 69 ล้าน 7 แสนบาท (จากวงเงินงบประมาณประจำปี 2559 จำนวน 5,360,188,000 บาท) ไปเป็นประโยชน์ของตน
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบแล้วเห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ 1-5 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จึงพิพากษาให้จำคุกนายพนม ศรศิลป์ (จำเลยที่ 1) เป็นเวลาทั้งสิ้น 2 ปี 12 เดือน ,นายชยพล พงษ์สีดา, นายณรงค์เดช ชัยเนตร และนายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี (จำเลยที่ 2-4) จำคุกคนละ 3 ปี 18 เดือน ส่วนนายธงชัย สุขโข อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จำเลยที่ 5 ให้จำคุก 36 เดือน และปรับ 27,000 บาท โดยในส่วนของจำเลยที่ 5 นั้นศาลเห็นว่า ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ในการเผยแพร่ศาสนามาอย่างต่อเนื่อง และเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ไม่เคยกระทำผิดทางวินัยจึงเห็นควรให้รอการลงโทษไว้กำหนด 2 ปี
สหรัฐฯ ระงับบังคับใช้กม.จัดซื้อจัดจ้างเพื่อเร่งสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโก
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ประกาศระงับการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างโดยภาครัฐเป็นกรณีพิเศษรวม 10 ฉบับ เพื่อเร่งการก่อสร้างกำแพงในแนวเขตพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโก ระยะทาง 283 กิโลเมตร ตั้งแต่แนวชายแดนรัฐแคลิฟอร์เนีย แอริโซนา นิวเม็กซิโก และเท็กซัส คาดว่า การระงับการบังคับใช้กฎหมายครั้งนี้ จะช่วยให้การก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนระยะทาง 150 กิโลเมตร เสร็จสิ้นภายในปีนี้ และช่วยให้ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ทำตามสัญญาที่จะสร้างกำแพงยาวทั้งหมด 720 กิโลเมตร ที่ให้ไว้ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง
สหรัฐฯ ประกาศกฎระเบียบใหม่เพื่อควบคุมการทำงานสื่อรัฐบาลจีน
รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมบังคับใช้กฎระเบียบใหม่ เพื่อควบคุมการทำงานของสื่อจีนในสหรัฐฯ เนื่องจากมีความกังวลว่ารัฐบาลจีนมีการโฆษณาชวนเชื่อ ผ่านสื่อของทางการ โดยภายใต้กฎระเบียบใหม่นี้ พนักงานของสื่อ 5 แห่งของจีนที่อยู่ในสหรัฐฯ ต้องลงทะเบียนตัวตนและทรัพย์สินในอเมริกา เหมือนกับพนักงานและเจ้าหน้าที่สถานทูตต่างประเทศ สื่อที่ต้องปฏิบัติตามกฎใหม่นี้ คือ สำนักข่าวซินหัว เครือข่ายโทรทัศน์ภาคบริการโลกแห่งประเทศจีน หรือ China Global Television Network สถานีวิทยุกระจายเสียงนานาชาติแห่งประเทศจีน หรือ China Radio International รวมทั้ง หนังสือพิมพ์ภาคภาษาอังกฤษ China Daily ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และ Hai Tian Development USA, Inc. ผู้พิมพ์และจัดจำหน่าย หนังสือพิมพ์ People’s Daily ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน
....
ภาพจากเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล
WHO แนะประเทศต่างๆ เพิ่มงบประมาณด้านสาธารณสุข
...
ปูตินรับข้อเสนอทรัมป์ ทำงานร่วมกับยูเครนเพื่อตกลงสันติภาพ
...
อิหร่านและสหราชอาณาจักร เรียกทูตเข้าชี้แจงกรณีจับกุมสายลับ
...
ข่าวทั้งหมด
