ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563

จีนเผยรายงานโควิด-19 ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง

          ทางการจีนเผยแพร่ผลการศึกษากรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากกว่า 44,000 คนซึ่งประมาณร้อยละ 80 เป็นผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง และมีอัตราเสียชีวิตต่ำ โดยกลุ่มเสี่ยงที่สุดคือผู้ที่มีอาการป่วยและผู้สูงวัย ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ ยังเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งเมื่อวานนี้ (18 ก.พ.) ยังมีรายงานเรื่องผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่นเสียชีวิตจากไวรัสสายพันธุ์นี้ คือนายแพทย์หลิว จือหมิง อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอู่ชาง และทำให้จีนสูญเสียบุคลากรการแพทย์ไปแล้ว 6 รายและป่วยอีกมากกว่า 1,700 คน

          ส่วนเรือสำราญไดมอนด์ ปรินเซส ที่จอดเทียบท่าอยู่ที่ท่าเรือโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น มีกำหนดทยอยปล่อยผู้โดยสารลงจากเรือตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันพุธ หลังจากที่ถูกกักตัวอยู่บนเรือมานานกว่า 14 วันแล้ว แต่จนถึงเมื่อวานนี้ก็ยังพบผู้ติดเชื้ออยู่

          เรือสำราญเวสเตอร์ดัม ที่ท่าเรือสีหนุวิลล์ กัมพูชา ผู้ว่าการกรุงพนมเปญ พาผู้โดยสารที่ยังไม่สามารถจองตั๋วเครื่องบินเดินทางออกจากประเทศได้ ไปเที่ยวสถานที่สำคัญในเมืองหลวง โดยก่อนหน้านี้ มีผู้โดยสาร 95 คนของเรือสำราญที่เดินทางเข้ามาไทยและออกนอกประเทศไปแล้ว แต่ยังเหลืออีก 4 คน เป็นไทย 2 คน ต่างชาติ 2 คน ผลการตรวจไม่พบว่าติดเชื้อทั้ง 4 คน

          บริษัทเจ้าของเรือสำราญ เปิดเผยว่า ผลการตรวจผู้โดยสาร 406 คนที่พักอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญนั้นออกมาเป็นลบ และพวกเขาสามารถเดินทางกลับประเทศได้ ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางกลับไปถึงสหรัฐฯก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ หรือซีดีซี กำลังติดตามผู้ที่อาจสัมผัสใกล้ชิดกับหญิงอเมริกันที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อและรับการรักษาอยู่ที่มาเลเซีย

          กรณีของคนไทยที่กลับมาจากอู่ฮั่น ที่จะครบกำหนดเฝ้าระวังโรคในวันนี้ ทีมแพทย์และฐานทัพเรือสัตหีบมีการตรวจซ้ำอีกครั้งเมื่อเย็นวานนี้ และจะให้กลับบ้านได้ในวันนี้

          และกรณีที่สื่อมาเลเซีย รายงานว่า มีนักธุรกิจเดินทางเข้ามาไทยทางด่านสะเดา เมื่อกลับไปก็มีอาการป่วยติดเชื้อนั้น ผลตรวจสอบพบว่าเข้ามาพักในไทย 1 คืน เมื่อกลับไปแล้วก็ล้มป่วย ซึ่งจากระยะการฟักตัวของเชื้อไวรัส ยืนยันได้ว่านักธุรกิจรายนี้ไม่ได้ติดเชื้อจากไทย

เศรษฐกิจจีนรายย่อยเจ็บหนักเสี่ยงล้ม-หนี้เสียพุ่ง

          สถานการณ์โรคระบาดกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทุกภาคส่วนของจีน โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนยังไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติเพราะมาตรการปิดเมือง การขยายวันหยุด การห้ามจัดกิจกรรมต่าง ๆ มีเอสเอ็มอี 1 ใน 3 ที่มีเงินทุนมากพอที่จะพยุงกิจการได้อีก 1 เดือนโดยร้อยละ 85 อาจจะต้องปิดหากการระบาดใช้เวลานานกว่า 3 เดือน และหากยาวนานถึง 6 เดือน จะมีบริษัทขนาดเล็กต้องปิดตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 90

          ส่วนการที่หลายประเทศออกมาตรการควบคุมการเดินทางยังส่งผลต่อการเดินทางของกลุ่มนักศึกษาจีนที่เดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลตรุษจีน แล้วไม่สามารถกลับไปศึกษาในภาคการศึกษาที่กำลังจะมาถึงได้ ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ในปี 2560 มีชาวจีนซึ่งศึกษาอยู่ในต่างประเทศมากกว่า 9 แสนคนโดยมากกว่าครึ่งศึกษาอยู่ที่ออสเตรเลียและสหรัฐฯ แต่ทั้ง 2 ประเทศมีมาตรการห้ามผู้เคยเดินทางไปจีน ช่วง 14 วันก่อนที่จะเดินทางมายังประเทศของตน ซึ่งการที่นักศึกษาจีนต้องหยุดการศึกษาชั่วคราวอย่างน้อย 1 ภาคการศึกษา อาจส่งผลให้มหาวิทยาลัยของทั้ง 2 ประเทศสูญเสียรายได้นับพันล้านดอลลาร์ เพราะแม้ว่าทางมหาวิทยาลัยจะเสนอจัดการเรียนแบบออนไลน์ แต่นักศึกษาจีนส่วนใหญ่ก็ยังเลือกที่จะหยุดเรียนชั่วคราว

ตอลีบาน-สหรัฐฯ ทำข้อตกลงสันติภาพ

          กลุ่มตอลีบานในอัฟกานิสถาน ประกาศว่าจะมีการลงนามสันติภาพกับสหรัฐฯในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้สหรัฐฯ ถอนกำลังทหารออกจากประเทศ จากนั้นกลุ่มตอลีบานจะเริ่มต้นเจรจากับรัฐบาลอัฟกานิสถานโดยตรง

          ส่วนผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของอัฟกานิสถาน ที่มีขึ้นเมื่อ 5 เดือนก่อนหน้านี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งของอัฟกานิสถานประกาศว่า นายอาชราฟ กานี เป็นผู้คว้าชัยชนะ โดยมีนายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์ ได้คะแนนตามมาเป็นอันดับ 2

สหรัฐฯ ลงโทษบริษัทค้าน้ำมันรัสเซีย ฐานทำธุรกิจกับเวเนซุเอลา

          รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทรอสเนฟ เทรดดิ้ง บริษัทนายหน้าค้าน้ำมันรายใหญ่ของรัฐบาลรัสเซีย และนายดิดิเยร์ คาซิไมโร ประธานบริษัท เนื่องจากช่วยรัฐบาลเวเนซุเอลาหลบเลี่ยงมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และช่วยให้ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร อยู่ในอำนาจต่อไป โดยให้ขึ้นบัญชีดำทางการเงิน และอายัดทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ในสหรัฐฯ และในสถาบันการเงินอเมริกัน ห้ามบริษัทในประเทศทำธุรกรรมกับรอสเนฟ เพื่อกดดันให้ออกไปจากระบบการเงินโลก

น้ำมันคงที่, ดาวโจนส์ลด

          สถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ภาคการผลิตของจีนต้องลดกำลังลง และส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก มีความต้องการใช้น้ำมันลดลง ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปก และพันธมิตร ยังไม่มีมาตรการในการพยุงราคาน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันล่วงหน้าแทบไม่มีการเคลื่อนไหว

          สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม คงที่ ปิดที่ 52.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

          ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ ปิดที่ 57.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

          ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ ลดลง 165.89 จุด ปิดที่ 29,232.19 จุด

          เอสแอนด์พี ลดลง 9.87 จุด ปิดที่ 3,370.29 จุด

          แนสแดค เพิ่มขึ้น 1.57 จุด ปิดที่ 9,732.74 จุด

....