กรณีกลุ่มคณะรัฐบุคคล เสนอให้พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ พูดคุยกับศาล ทหาร และผู้นำทางสังคม เพื่อร่างพระบรมราชโองการเสนอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธยเพื่อแก้วิกฤตหรือสภาวะสุญญากาศทางการเมือง
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สูญญากาศทางการเมืองครั้งนี้เป็นเพราะการใช้ทฤษฎีสมคบคิดกันจงใจให้มีขึ้น และมีการแบ่งงานกันทำ โดยไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง รวมถึงไม่เห็นหัวประชาชนและไม่เคารพกติกาที่ให้ประชาชนต้องเป็นผู้ตัดสิน เพราะนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการให้มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ. แต่กลุ่มที่ไม่ต้องการให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยมีการใช้กำลัง จนทำให้ผู้สมัครส.ส.ไม่สามารถไปสมัครเลือกตั้งได้
ขณะเดียวกันมีการใช้ทฤษฎีสมคบคิดกัน ซึ่งส่งผลให้ไม่มีผู้สมัครใน 28 เขตเลือกตั้ง ทำให้กระบวนการต่าง ๆ ตัดสินว่า การเลือกตั้งดังกล่าวเป็นโมฆะ ส่วนข้อเสนอให้พล.อ.เปรม เข้ามาช่วยแก้ไขวิกฤต นายจารุพงศ์ กล่าวว่า พล.อ.เปรม เป็นรัฐบุรุษผู้อาวุโสแล้ว ควรให้พล.อ.เปรม อยู่ในที่ที่เคารพ และเป็นที่สง่างาม อย่าให้พล.อ.เปรมต้องเหนื่อยเลย แต่การแก้ปัญหาเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่ต้องช่วยกันทำ ทั้งนี้คนที่ทำให้เรื่องยังไม่จบนั้นไม่ใช่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย แต่เป็นพวกนอกกฎหมาย ยึดถือแต่กฎของตัวเอง
" คณะรัฐบุคคลออกมาพูดว่า จะให้พล.อ.เปรมเข้ามาเกี่ยวข้อง ท่านประธานองคมนตรีเป็นที่เคารพ เป็นผู้อาวุโส มีอายุ 94 ปีเท่าบิดาของผม ควรเอาท่านขึ้นหิ้งไว้บูชาดีกว่า อย่าให้ท่านมาแปะเปื้อนเลย ช่วงท้ายของชีวิตแล้ว คนอีสานเขามีคำพูดสำหรับคนที่อายุเกิน 90 ปีว่า เป็นไข้ก็ตาย ไม่เป็นไข้ก็ตาย ผมไม่ได้แช่งท่าน แต่หมายความว่าอย่าให้ท่านทำงานหนักมากนัก ควรให้ท่านเป็นสัญลักษณ์ที่ดีงาม อยู่สบายๆดีกว่า "