บุกค้น10จุด รวบแก๊งอุ้มบุญข้ามชาติ ยึดทรัพย์สินกว่า100ล้าน

13 กุมภาพันธ์ 2563, 15:19น.


          หลังจากเจ้าหน้าที่ค้นพื้นที่ 10 จุด ทลายขบวนการอุ้มบุญที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีชาวจีนเป็นนายทุน และมีชาวไทยเป็นนายหน้าหาคนรับจ้างอุ้มบุญ เป็นการขยายผลจากคดี เมื่อปี 2560 ที่ตำรวจ จับกุมกลุ่มผู้ลักลอบขนถังอสุจิ ที่ จ.หนองคาย และพบว่าเป็นขบวนการที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2555 มีหญิงไทยรับจ้างอุ้มบุญ กระจายอยู่ตามต่างจังหวัดทั่วประเทศ คาดว่า ไม่ต่ำกว่า 100 ราย มีเด็กที่คลอดจากการอุ้มบุญไม่ต่ำกว่า 50 ราย 



         พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับค้ามนุษย์ นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพัก บริษัทต่างๆ ที่ผู้ต้องหาเปิดบังหน้าและสถานที่ที่พักอาศัยของกลุ่มแม่อุ้มบุญทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ จ.ปทุมธานี จ.หนองคาย จับผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 9 ราย ยึดทรัพย์สินได้มากกว่า100 ล้านบาท สอบปากคำหญิงไทยที่รับจ้างอุ้มบุญ 15 ราย ช่วยเหลือเด็กที่เกิดจากแม่อุ้มบุญ 2 ราย อายุ 4 เดือน และอายุ 22 วัน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะรับไปดูแลชั่วคราว เพราะยังไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อแม่ของเด็ก





          ผู้ต้องหาชาวจีน ว่าจ้างกลุ่มหน้านายชาวไทย ให้ติดต่อชักชวนหญิงไทย มารับจ้างอุ้มบุญแทน โดยจะจัดการเอกสารการคลอด รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆทั้งหมด หญิงไทยที่รับจ้างจะได้ค่าจ้างประมาณ 300,000-450,000 บาท หากตั้งครรภ์ทารกแฝดจะได้ค่าจ้างสูงขึ้น กลุ่มนายทุน จะพาหญิงไทยที่รับจ้างเดินทางไปฝังตัวอ่อนที่สปป.ลาวและกัมพูชา หลังจากนั้นจะพากลับมาฝากครรภ์และคลอดบุตรที่ประเทศไทย แต่บางรายอาจพาไปคลอดที่ประเทศจีน และจะพาเด็กที่คลอดไปส่งให้บุคคลที่อ้างว่าเป็นพ่อในประเทศจีน และไม่พบข้อมูลการเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยอีก





          เจ้าหน้าที่ แจ้ง 3 ข้อหากับผู้ต้องหาในขบวนการนี้ คือ สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,ร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า และห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือขายข่าวให้แพร่หลายด้วยประการใดๆเกี่ยวกับการตั้งครรภ์แทน



          ด้านนายธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า มีสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตให้มีการรับอุ้มบุญเข้ามาเกี่ยวข้องในขบวนการนี้9แห่ง ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด  หลังจากนี้จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เจตนาทำผิดหรือไม่  การอุ้มบุญที่ถูกต้องตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 จะต้องเป็นชาวไทย สามี ภรรยาที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย หรือ หากคนใดคนหนึ่งเป็นต่างชาติต้องจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 3 ปี สาระสำคัญการอุ้มบุญต้องเป็นเครือญาติ ไม่มีการว่าจ้าง ห้ามเลือกเพศ  และเมื่อเด็กออกมาห้ามปฏิเสธเด็กที่เกิดออกมา จึงฝากประชาสัมพันธ์ว่าใครประสงค์ที่จะให้มีการอุ้มบุญแทน ขอให้ติดต่อสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตให้มีการอุ้มบุญ 97 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภาด้วย



 



 

ข่าวทั้งหมด

X