สสส.เตือนวัยรุ่นให้ป้องกันตัวเอง สวมถุงยางอนามัย ป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

          การแก้ปัญหาวัยรุ่นตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร เป็นเรื่องที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เดินหน้ารณรงค์สร้างความเข้าใจมาโดยตลอด ให้พ่อแม่ผู้ปกครอง วัยรุ่น เข้าใจดูแลตัวเองเลี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และในช่วงนี้ใกล้เทศกาลวันแห่งความรัก 14 ก.พ. สสส. เปิดเวทีส่งเสริมการมีสุขภาวะทางเพศ "วัยรุ่น 2020 รู้จักป้องกันท้อง ป้องกันโรค" เพื่อช่วยกันลดความเสี่ยง เนื่องจากเมื่อปี 2562 พบว่า เยาวชนอายุ 15-24 ปี ป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 5 โรค ได้แก่ โรคหนองใน ซิฟิลิส หนองในเทียม แผลริมอ่อน และกามโรค ของต่อมและท่อน้ำเหลือง มีผู้ติดเชื้อวันละ 124 คน ขณะที่อัตราการคลอดของแม่วัยรุ่น มีแนวโน้มลดลงแต่ยังอยู่ในอัตราที่สูง เฉลี่ยทุกวันจะมีแม่วัยรุ่นอายุ 15-19 ปี ประมาณ 190 คน พ.ญ.มณฑินี วสันติโภคากร รองผู้อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะนำว่า ภาครัฐจะต้องให้ความรู้ ความเข้าใจ ส่งเสริมให้ประชาชนใช้ถุงยางอนามัยเพื่อให้ปลอดภัยจากการติดโรคและวัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พร้อม  

          นายชาติวุฒิ วังวล ผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. กล่าวว่า ทุกคนต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะต้องช่วยกันรับผิดชอบทั้งตัวเองและคนอื่นด้วย ไม่เพียงแค่วัยรุ่น ผู้ปกครองก็จะต้องเปิดกว้างและสามารถสื่อสารเชิงบวกกับบุตรหลานในเรื่องเพศได้ สสส.ได้มีการรณรงค์ผ่านสื่อรวมถึงจัดทำหลักสูตรพัฒนาผู้นำเยาวชนในการเป็นผู้พิทักษ์สิทธิ การป้องกันและแก้ปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่น  ซึ่งมีการประสานงานกับชุมชนท้องถิ่นและโรงเรียนพัฒนาทักษะผู้ปกครองด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากสายด่วน 1663 ที่ไว้ปรึกษาโรคเอดส์และการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม ซึ่งมีสถิติพบว่าคนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 80 ที่โทรเข้ามาปรึกษาเรื่อง HIVและ AIDS เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ที่น่ากังวลพบว่าในจำนวนหนึ่งที่โทรมามีคู่นอนหลายคน แต่มีคู่รักอยู่แล้ว และไม่ใช้ถุงยางอนามัยเพราะไว้ใจคู่รัก ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนมีความรับผิดชอบ พกและใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม