ผบ.ทบ.เสียใจสูญเสียผู้ปฏิบัติหน้าที่ เปิดศูนย์รับเรื่องทหารร้องทุกข์ 17 ก.พ.นี้

         พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงผลพวงจากการแถลงเหตุการณ์ที่ จ.นครราชสีมา วานนี้ ว่า สื่อมีความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียนของทั้งประเทศ และไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก กองทัพบกได้แสดงความเสียใจและรับผิดชอบไปแล้ว ส่วนสื่อออนไลน์และสื่อโซเชียลก็ยังคงมีการวิพากษ์วิจารณ์ถือเป็นเรื่องปกติ เราทำใจกันมานานแล้ว ห้ามไม่ได้ ซึ่งวานนี้ประหลาดใจกับการตั้งคำถามของสื่อ เพราะรู้สึกผิดคาด หลังสื่อตั้งคำถามด้วยความระมัดระวัง มากกว่าเป็นประเด็นการเมือง และเมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีก็ได้ไปร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพผู้เสียชีวิต

          พล.อ.อภิรัชต์ ย้ำว่า วิกฤตินี้ไม่ควรจะลืมกันง่ายๆ ขอให้หันหน้าเข้าหากัน มุ่งไปที่ความปลอดภัยของประชาชน อย่ามุ่งเพียงคนนั้นดี คนนั้นเก่ง หรือคนอื่นไม่ดี สิ่งไม่ดีต้องมาช่วยกันแก้ไข ส่วนตัวผ่อนคลายลงหลังได้แสดงความรับผิดชอบ เพราะได้พูดจากใจ สิ่งที่เขียนขึ้นมาจากใจสรุปเป็นตัวปากกา ขอขอบคุณสื่อ ซึ่งสื่อเองก็ได้รับบทเรียน สื่อดิจิตอล กสทช. ก็ได้เชิญไปหารือว่าต่างประเทศบริหารจัดการอย่างไรเพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ

          พล.อ.อภิรัชต์ ระบุว่า เป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหวกับเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะสิ่งที่เสียใจที่สุดคือการสูญเสียผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะ พลทหารเมธา เลิศศิริ ที่ไม่มีใครกล่าวถึงว่าเขาเสียชีวิตระหว่างยืนยามรักษาการณ์ แต่ไปมองว่ากองทัพหละหลวม ขอถามว่าถ้าหละหลวมจะมียืนยามรักษาการณ์อยู่ไหม เพราะคนที่เห็นหน้ากันทุกวันใครจะรู้ว่าจะเดินเข้ามาแล้วเอาปืนมายิง คนทำงานด้วยกัน เห็นหน้ากันทุกวัน ใครจะไปรู้ ใครจะไปเฉลียวใจ พร้อมขอฝากให้คิดไปดูข้อความที่คนแชร์ในโซเชียลมีเดียเรื่องเฉินหลง ที่บรรทัดแรกๆ เขียนว่าเฉินหลง 65 ปี ได้นอนอย่างสงบที่ฮ่องกง ทำให้เข้าใจว่าเฉินหลงเสียชีวิต แต่พอไล่บรรทัดถัดมาเขาก็เขียนว่า เฉินหลงตื่นเช้ามาก็ตื่นเช้าออกกำลังกายปกติ จึงอยากให้คนไทยอ่านหนังสือมากกว่า 8 บรรทัด เวลาอ่านอะไรอย่าอ่านแค่ 3-4 คนแล้วไม่อ่าน

          นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยอมรับด้วยว่าสบายใจขึ้นหลังแถลงข่าววานนี้ แต่ทุกคนก็ต้องพร้อมที่จะรับกับสิ่งที่ตนเองกระทำ ซึ่งในวันที่ 17 ก.พ. 2563 จะเปิดศูนย์คอลเซ็นเตอร์เพื่อรับข้อร้องเรียนจากกำลังพลโดยตรงที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังได้สั่งการไปวานนี้ ภายใต้การควบคุมของสำนักงานผู้บัญชาการทหารบก จัดเจ้าหน้าที่รับสายตามเวลาราชการ 08.00 - 16.00 น. วันจันทร์ถึงศุกร์ ส่วนวันหยุดเสาร์และอาทิตย์จะบันทึกข้อความเสียงไว้ โดยทหารผู้ที่ถูกเอาเปรียบจะต้องแจ้งชื่อ ตำแหน่ง หมายเลขประจำตัว และสังกัด ให้ทราบว่าเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริง หากแจ้งข้อมูลเท็จก็จะถูกดำเนินการทางกฎหมาย