*สนช.รับหลักการร่างกฎหมายคุ้มครองเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญ ตั้งกมธ.แปรญัตติใน30วัน*

การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ หรือกฎหมายอุ้มบุญ ในวาระแรกที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. มีมติรับหลักการด้วยคะแนน 177 ต่อ 2 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณา จำนวน 18 คน มีกรอบเวลาทำงาน 30 วัน และให้แปรญัตติภายใน 7 วัน โดยพลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ชี้แจง ต่อที่ประชุมสนช. ถึงความก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการบำบัดรักษาภาวะการมีบุตรยาก ว่าสามารถช่วยให้มีบุตรได้ง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ รวมถึงกฎหมายนี้จะช่วยกำหนดสถานะความเป็นบิดามารดาของเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญ และควบคุมการวิจัยไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ผิด ด้านนายกิตติ วะสีนนท์ สมาชิก สนช. ได้อภิปราย เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ว่าจะช่วยอุดช่องว่างของปัญหาการอุ้มบุญ เพราะไม่ใช่เพียงการคุ้มครองเด็ก แต่จะช่วยคุ้มครองทั้งกระบวนการ ซึ่งข้อกฎหมายที่ห้ามตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า เป็นการปิดช่องทางการเช่ามดลูก ซึ่งที่ผ่านมาไทยเป็นหนึ่งในประเทศสามารถตั้งครรภ์แทนได้โดยไม่ผิดกฎหมายสอดคล้องกับนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. ที่เห็นด้วยกับการร่างกฎหมายนี้ เพราะชื่อของกฎหมายครอบคลุมไปทุกกระบวนการ ตั้งแต่การเกิดถึงการดำรงชีวิตของเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญส่วนนายแพทย์ เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิก สนช.กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้เกิดมาเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีประเด็นของพ่ออุ้มบุญชาวญี่ปุ่นที่ฝากหญิงไทยตั้งครรภ์ 13 ราย หรือกรณีพ่อชาวออสเตรเลียล่วงละเมิดทางเพศบุตรสาวที่เกิดจากการอุ้มบุญ จึงเห็นด้วยที่จะมีกฎหมายเพื่อป้องกันการแพทย์เชิงพาณิชย์ และควบคุมไม่ให้การอุ้มบุญแพร่กระจายมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่สิ่งที่กังวลคือ กรณีที่ห้ามคู่รักร่วมเพศ หรือหลากหลายทางเพศทำอุ้มบุญ เพราะอาจจะถูกมองว่า เป็นการกีดกันความเป็นสิทธิมนุษยชน ซึ่งต้องมีการพูดคุยในรายละเอียดเรื่องนี้เพิ่มเติมอย่างไรก็ตาม ในร่างพระราชบัญญัติได้ กำหนดบทลงโทษไว้ว่า หากพบแพทย์ที่ไม่มีคุณสมบัติตามที่แพทยสภากำหนด ดำเนินการอุ้มบุญ จะมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ หากดำเนินการเพื่อประโยชน์ทางการค้าจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกินสองแสนบาท ส่วนคนที่รับเป็นนายหน้าชี้ช่องให้เกิดการรับจ้างตั้งครรภ์แทน จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

บุศรินทร์