*สนช.ไม่รับพิจารณาพยานหลักฐานของอดีตปธ.วุฒิสภา สำนวนถูกถอดถอน*

ที่ประชุมสภานิติบัญญัติ(สนช.)มีมติไม่รับพยานหลักฐานเพิ่มเติมของนาย นิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภาไว้พิจารณาในการถอดถอน ด้วยคะแนนเสียงเห็นไม่เห็นด้วย96 เสียงเห็นด้วย 82 เสียง งดออกเสียง 14 เสียง และที่ประชุมสนช. ยังลงมติเห็นชอบตามวิปสนช.ให้กำหนดวันแถลงเปิดคดีนายนิคม ในวันที่ 8 ม.ค. 2558 ในเวลา 10.00น. ที่ประชุมพิจารณาหลังจากที่นายนิคม ชี้แจงขอยื่นพยานหลักฐานอาศัยข้อบังคับการประชุมสนช.มาตรา 155  เพื่อยื่นหลักฐานเป็นเทปการประชุมจำนวน 9 แผ่นที่ตัวเองสรุปมาจากการประชุมวุฒิสภากว่า 120 ชม. โดยย่อให้เหลือเทปวีดีทัศน์เพียง 2 แผ่นและมีสาระสำคัญเพียง 4 ชม. ยืนยันว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ไม่เคยได้รับเอกสารนี้มาก่อน และส่วนตัวถูกกล่าวหาในการรีบรับญัตติการแก้ไขที่มาของวุฒิสภาเพื่อปิดประชุม ซึ่งถือเป็นข้อหาที่ร้ายแรงมาก ทั้งที่มีผู้เสนอปิดประชุมและมีการอภิปรายอย่างกว้างขวางในขณะประชุม ส่วนตัวจึงต้องมายื่นหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริง ขณะที่นายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป.ป.ช.ตัวแทนป.ป.ช. ในฐานะผู้กล่าวหา ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมสนช. หลังนายนิคม  ได้ขึ้นชี้แจงขอยื่นเอกสารเพิ่มเติม โดยนายวิชา กล่าวว่า การที่นายนิคม จะขอเพิ่มวิดีทัศน์การบันทึกการประชุมวุฒิสภาที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหามาเพิ่มเป็นวัตถุพยาน ป.ป.ช. ได้บรรจุ วัตถุพยานดังกล่าว ไว้ในสำนวนทั้งหมดแล้ว และขอยืนยันว่า การทำหน้าที่ของป.ป.ช.เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ วุฒิสภาส่งเรื่องมาให้ป.ป.ช.ไต่สวนข้ออเท็จจริง ป.ป.ช.จึงต้องดำเนินการตามหน้าที่ ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ

ส่วนการพิจารณาถอดถอนในส่วนของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ไม่ได้มีการขอเพิ่มพยาน แต่ส่งหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรมาแทน ที่ประชุมสนช.ก็นัดแถลงเปิดคดีในวันที่8มกราคม 2558 เวลา10.00น.เช่นเดียวกับนาย นิคม โดยขั้นตอนจะเริ่มที่การเชิญคู่กรณีเข้ามาตรวจพยานหลักฐานโดยการพิจารณาพยานหลักฐานเพิ่มเติมจะมีการขอความเห็นจากที่ประชุมทีละรายการ จากนั้นจึงทำการลงมติ

ธีรวัฒน์