กมธ.ยกร่างรธน. เผย "นายอภิสิทธิ์" สนับสนุนทำประชามติ และเสริมอำนาจการตรวจสอบ

27 พฤศจิกายน 2557, 13:46น.


ในการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ กับ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรม นูญเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที  พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ที่ปรึกษาและโฆษกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ ได้แสดงความเห็น สนับสนุนการทำประชามติ ทั้งเห็นว่า รัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ต้องมีความเป็นประชาธิปไตยไม่น้อยกว่ารัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมา เช่น เรื่องสิทธิ์เสรีภาพ  การเลือกผู้นำประเทศ การกระจายอำนาจจากราชการ ไปสู่ผู้นำท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อให้การเมืองภาคประชาชนเข้มแข็ง ให้ประชาชนมีช่องทางการตรวจสอบนักการเมืองได้ นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญ ยังต้องต้องแก้ปัญหาทางการเมืองได้ตรงจุด สามารถเพิ่มอำนาจการตรวจสอบถ่วงดุลให้มากขึ้น เช่น เพิ่มอำนาจให้ฝ่ายค้านสามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ โดย เสนอให้ประธานและรองประธาน สภาผู้แทนราษฎร มาจากพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียง ที่1 2 และ 3 เพื่อไม่ให้สภาถูกครอบงำ โดยพรรคการเมืองเดียว


ส่วนประธานกรรมาธิการสามัญ และประธานกรรมาธิการวิสามัญ คณะต่างๆ ควรเป็นผู้แทนจากฝ่ายค้าน เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ รวมถึง นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ก็จะต้องตอบกระทู้ถามสดด้วยตนเอง 


ส่วนกฏหมายต่างๆ ที่สำคัญ ควรได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมด้วยมติ 2 ใน3 ส่วนสมาชิกวุฒิสภาควรมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด แต่อาจเป็นการเลือกตั้งตามสายอาชีพ และควรเพิ่มอำนาจให้วุฒิสภาสามารถ เสนอและยับยั้งกฏหมายได้ 


ส่วนองค์กรอิสระ ควรทำหน้าที่เฉพาะเรื่องสำคัญเท่านั้น ทั้งควรกำหนดเวลาในการพิจารณาคดี และควรตั้งองค์คณะเฉพาะกิจขึ้นทำหน้าที่เพื่อป้องกันการแทรกแซง


ส่วนการเขียนรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวกับโครงการประชานิยม ไม่ควรเขียนรัดกุมจนพรรคการเมืองไม่สามารถกำหนดนโยบายได้ แต่ควรมีบทบัญญัติ ที่ทำให้พรรคการเมือง กำหนดรูปแบบนโยบายให้ชัดเจน และต้องรับผิดชอบ เมื่อโครงการล้มเหลว 


ส่วนการแบ่งแยกอำนาจนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร นายอภิสิทธิ์ เห็นว่าไม่ควรแบ่งแยกกันจนชัดเจนเกินไป เพราะ กรณีที่ ผู้บริหารประเทศมาจากการเลือกตั้ง แต่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งกลายเป็นข้ออ้างเสียงส่วนใหญ่ของประเทศและทำให้สภาไม่สามารถถอดถอนได้


ส่วนแนวความคิดที่ให้พรรคการเมืองเป็นพรรคผสม นายอภิสิทธิ์ เห็นว่า อาจทำให้กลายเป็นเผด็จการรัฐสภา เพราะในทางปฏิบัติจะไม่สามารถตรวจสอบกันเองได้


อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ เห็นว่า จะต้องมีการพัฒนาการสร้างความเข้มแข็งของ ให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่มีประสิทธิภาพ มีระเบียบ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ความสังกัดพรรคการเมือง เพราะการไม่สังกัดพรรคการเมือง ทำให้เกิดการไร้ระเบียบ  และอาจมีการเรียกรับผลประโยชน์จากรัฐบาล


ส่วนบทบัญญัติเรื่อง การสร้างความปรองดอง ไม่ควรให้มีการนิรโทษกรรมในทุกกรณี  โดยเฉพาะความผิดอาญาที่เกิดกับชีวิต และ การทุจริตคอรัปชั่น


 


...ผสข.บุศรินทร์ วรสมิทธิ์ 
ข่าวทั้งหมด

X