ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563

ยอดตายจากไวรัสอู่ฮั่นมีจำนวนมากกว่า 500 ราย

          รัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการควบคุมโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) ที่มีความเข้มงวดมากขึ้นในเมืองใหญ่หลายแห่ง โดยห้ามการจัดงานเลี้ยงที่มีผู้ร่วมงานจำนวนมาก ส่วนที่เมืองหางโจว ในมณฑลเจ้อเจียง กับเมืองหนานชาง ในมณฑลเจียงซี มีการจำกัดจำนวนบุคคลในครอบครัวที่สามารถออกมานอกบ้านได้ในแต่ละวัน ส่วนที่มณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นศูนย์กลางของโรคระบาด ทางการสั่งปิดลิฟต์ตามอาคารสูง เพื่อลดแรงจูงใจในการออกจากบ้าน นอกจากนี้ที่เมืองอู่ฮั่น เจ้าหน้าที่รัฐเริ่มการตรวจคัดกรองสุขภาพของประชาชนทุกคน

          คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ของจีนแถลงเมื่อวานนี้ (6 ก.พ.) ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 563 รายและพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 3,694 คน รวมมีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 28,000 คน ซึ่งเป็นวันแรกในรอบหลายสัปดาห์ที่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลดลง ขณะที่พบผู้ติดเชื้ออีกเกือบ 260 คนใน 31 ประเทศ โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในจีน มีจำนวนมากกว่า 28,000 คน รองลงมาคือญี่ปุ่นที่พบผู้ป่วยสะสม 45 คน 

          ส่วนที่ฮ่องกงมีการกักเรือสำราญเวิลด์ ดรีมเพื่อติดตามอาการของผู้โดยสาร 3,600 คนบนเรือ หลังจากที่พบว่ามีอดีตผู้โดยสารเรือลำนี้ 3 คนเป็นผู้ป่วย

องค์การอนามัยโลกเร่งพัฒนาวัคซีน

          ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในจีนและอเมริกาต่างกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาวัคซีนที่สามารถนำมาทดสอบกับคน ได้ภายใน 2-3 เดือนนี้ โดยองค์การอนามัยโลก จะมีการประชุมในระหว่างวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์นี้ ที่เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเร่งรัดการวิจัยยาและวัคซีน รวมถึงการจัดส่งอุปกรณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์ หน้ากากอนามัย และชุดทดสอบไปยังหลายประเทศ

          อย่างไรก็ตามกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (MOST) คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) และสำนักงานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์แห่งชาติจีน (NMPA) ผ่านการอนุมัติให้มีการทดลองยาต้านไวรัสเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) ทางคลินิกแล้ว และมีผู้ป่วย 761 คนเข้ารักษาวานนี้ (6 ก.พ.) ที่โรงพยาบาลหลายแห่งในเมืองอู่ฮั่น โดยยาเรมเดซิเวียร์เป็นยาที่ได้รับการพัฒนาโดย บริษัทกิลเลียด (Gilead Sciences) บริษัทเภสัชกรรมสัญชาติอเมริกัน         

แพทย์ผู้เตือนเรื่องไวรัสโคโรนา เสียชีวิตแล้ว

          โรงพยาบาลเมืองอู่ฮั่นยืนยันว่า นพ.หลี่ เหวินเหลียง อายุ 34 ปีซึ่งเป็นแพทย์ที่อยู่ในแพทย์ 8 คนที่เตือนเรื่องไวรัสโคโรนาเสียชีวิตแล้ว เมื่อเวลา 02.58 น. ตามเวลาท้องถิ่น

           เมื่อปลายเดือนมกราคม นพ.หลี่ เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ในวันที่ 30 ธันวาคม ปีก่อน เขาส่งข้อความในกรุ๊ปแชตเตือนเพื่อนร่วมงานให้ระวังไวรัสปริศนาที่ทำให้เกิดอาการคล้ายโรคซาร์ส โดยมีผู้ป่วยถูกส่งมาโรงพยาบาลหลายรายแล้วและทั้งหมดถูกกักกันเพื่อติดตามอาการ แต่ 4 วันต่อมา นพ.หลี่กับแพทย์อีก 7 คนที่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการระบาด ถูกเชิญตัวไปยังสำนักงานตำรวจท้องถิ่น และถูกบังคับให้ลงนามในเอกสารสัญญาว่า จะไม่เปิดเผยเรื่องเกี่ยวกับโรคนี้อีก แต่ในวันที่ 10 มกราคม นพ.หลี่ก็เริ่มมีอาการป่วย และเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล จนถึงวันที่ 30 มกราคม มีผลการตรวจยืนยันว่า เขาติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ศก.อินโดฯชะลอหนัก

          สำนักงานสถิติแห่งชาติของอินโดนีเซียรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ตลอดปีที่แล้ว ขยายตัวที่ระดับร้อยละ 5.02 ลดลง 0.15 จุดจากสถิติเมื่อปี 2561 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 5.17 ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558 และยังต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ร้อยละ 5.3 เนื่องจากการส่งออกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มและถ่านหิน อย่างไรก็ตาม นายซูฮาริยันโต ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน การที่เศรษฐกิจของอินโดนีเซียซึ่งมีมูลค่าสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถรักษาระดับที่ร้อยละ 5 เอาไว้ได้ถือว่าดีมากแล้ว

คณะกรรมการเทคนิคโอเปก ให้ลดกำลังการผลิตอีก 6 แสนบาร์เรล/วัน

          ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก และพันธมิตรเสนอให้ปรับลดกำลังการผลิตลงอีก 6 แสนบาร์เรล/วัน เพื่อผลักดันให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งตามขั้นตอนยังต้องรอการยืนยันจากรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่นอกกลุ่มโอเปกว่าจะเห็นชอบหรือไม่ แต่ที่ผ่านมารัสเซียมีท่าทีคัดค้านการปรับลดกำลังการผลิต ส่วนโอเปกและชาติพันธมิตรจะมีการประชุมในวันที่ 5-6 มีนาคม

          สำหรับราคาน้ำมันในตลาดโลก สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 50.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

          ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 35 เซนต์ ปิดที่ 54.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

          และความเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 88.92 จุด ปิดที่ 29,379.77 จุด

          เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 11.09 จุด ปิดที่ 3,345.78 จุด

          แนสแดค เพิ่มขึ้น 63.47 จุด ปิดที่ 9,572.15 จุด

...