ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563

นายกฯ สั่งกทม.แจกหน้ากากอนามัย

          นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ Professor Narumon Pinyosinwat @DrNarumonP ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งการให้กรุงเทพมหานคร(กทม.) เร่งแจกหน้ากากอนามัย ในพื้นที่ต่าง ๆ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 9 ก.พ. ประชาชนเองก็สามารถดูแลสุขภาพอนามัยของตนเอง ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ ซึ่งจะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ในระดับหนึ่ง สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่อเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงหรือสถานที่แออัด  

ผู้ว่าฯกทม.ให้จนท.แจกหน้ากากอนามัยที่BTS บางหว้า  

       พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) มอบหมายให้ นายสาโรจน์ สามารถ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. พร้อมด้วยผู้อำนวยการเขต และเจ้าหน้าที่เขตภาษีเจริญ ลงพื้นที่แจกหน้ากากอนามัย และให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับวิธีการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา และฝุ่น PM2.5 ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสบางหว้า เขตภาษีเจริญ

        ปัญหาฝุ่น PM2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เมื่อปี 2559 - 2561 มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษากว่า 70,000 คน และปี 2562 พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยเข้ารักษาถึง 200,000 คน วันนี้ ภาคเอกชน หลายหน่วยงานมอบเครื่องฟอกอากาศกำจัดฝุ่น PM 2.5 จำนวน 100 เครื่อง มูลค่า 1,000,000 บาท ให้กับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปใช้ในโรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ 11 แห่ง เช่น รพ.กลาง รพ.ตากสิน รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธโร อุทิศ  รพ.เวชการุณย์รัศมิ์ รพ.ลาดกระบังกรุงเทพมหานคร รพ.ราชพิพัฒน์ รพ.สิรินธร รพ.บางนากรุงเทพมหานคร รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน รพ.คลองสามวา สำหรับเครื่องฟอกอากาศทางโรงพยาบาลจะนำไปติดตั้งประจำจุดที่จำเป็นและมีผู้ป่วยหรือประชาชนใช้บริการจำนวนมาก เพื่อช่วยบรรเทาปัญหามลพิษทางอากาศ และป้องกันการติดเชื้อทางอากาศ และยกระดับคุณภาพอากาศที่ดีให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนที่มาใช้บริการ  นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา เช่น น้ำยาไฮเตอร์ 100 ลัง น้ำยาฆ่าเชื้อโรค จำนวน 52  แกลลอน ถุงมือยาง 3,000 คู่ และผลิตภัณฑ์ทั้งหมด กทม.จะนำไปแจกจ่ายให้กับสำนักงานเขต 50 เขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ในการทำความสะอาดพื้นที่ที่มีความเสี่ยง

จีน ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์

          สถานการณ์ที่จีน นายหู หลี่ซาน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเทศบาลเมืองอู่ฮั่น กล่าวว่า แม้ทางการทั้งระดับรัฐและท้องถิ่นร่วมกันก่อสร้างโรงพยาบาลสนามเพื่อรักษาผู้ป่วยเสร็จแล้ว 2 แห่ง สามารถรองรับคนไข้รวมกันได้มากกว่า 2,000 เตียง และยังปรับสภาพสถานที่อีกหลายแห่งให้เป็นโรงพยาบาลชั่วคราว แต่สถานการณ์ในภาพรวม "ยังวิกฤติ" เพราะผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนบุคลากรทางการแพทย์ไม่อาจรับมือได้ไหว เทศบาลเมืองอู่ฮั่น กำลังหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการแปรสภาพโรงเรียนและโรงแรมบางแห่งให้เป็นสถานพยาบาลเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังคงขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์จำนวนมาก โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย ชุดและแว่นตาป้องกัน และถุงมือ เนื่องจากสิ่งของเหล่านี้ไม่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้

          องค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ส่งมอบสิ่งของจำเป็นทางการแพทย์ไปให้จีนอย่างต่อเนื่อง ประกาศระดมทุนเบื้องต้น 675 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( ราว 20,959.39 ล้านบาท ) สำหรับใช้สนับสนุนการต่อสู้กับเชื้อไวรัส ซึ่งมูลนิธิบิลและเมลิดา เกตส์ บริจาคแล้ว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( ราว 3,104.65 ล้านบาท)

ไทย คุยกับอินโดฯแลกเปลี่ยนข้อมูลไวรัส

          เฟสบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โพสต์ ข้อความระบุว่า ได้พูดคุยหารือกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย @jokowi เกี่ยวกับแนวทางของ #ASEAN ที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเชื้อไวรัส โดยเฉพาะในเรื่องของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันอย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางที่มีอยู่เกี่ยวกับแนวทางการรักษาที่ประสบผลสำเร็จและมาตรการต่างๆ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือประชาชนของประเทศสมาชิก โดยได้เน้นย้ำถึงการมีส่วนร่วมของ host country และกลไกอาเซียน+3 ที่มีการใช้อยู่แล้ว

          ทั้งนี้ อินโดนีเซีย ได้นำเครื่องบินแอร์บัส เอ 330 ไปรับคนอินโดนีเซียกลับจากอู่ฮั่น 238 คน ไปกักตัวดูอาการที่ฐานทัพอากาศที่หมู่เกาะรีเยา ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ  

มีผู้เสียชีวิต 3 บาดเจ็บเกือบ 180 จากอุบัติเหตุเครื่องบินตุรกีไถลออกจากรันเวย์

          มีผู้เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บ 179 คน จากอุบัติเหตุเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์สนามบินอิสตันบูล ของตุรกี ขณะลงจอด ทำให้มีไฟไหม้ และตัวเครื่องบินหักออกเป็น 3 ส่วน สถานีโทรทัศน์ตุรกี รายงานว่า เครื่องบินที่เกิดเหตุคือโบอิ้ง 737 ของสายการบินเพกาซัส ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ เดินทางมาจากสนามบินอิชมีร์ เมืองท่าเรือทะเลอีเจียน และประสบเหตุขณะลงจอดที่สนามบินซาบิฮา กุคแซง ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีฝนตกหนัก ลมแรง กระทรวงสาธารณสุขตุรกี รายงานว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย เป็นชาวตุรกี หลังจากที่เกิดเหตุ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไม่มากนักลงมาจากเครื่องบินด้วยตนเอง แต่มีหลายคนที่ติดอยู่ภายใน รอเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ สำนักข่าวอนาโดลู รายงานว่า เครื่องบินที่เกิดเหตุมีผู้โดยสาร 177 คนและลูกเรือ 6 คน ในกลุ่มผู้โดยสารมีอยู่ 12 คนที่เป็นเด็กและเป็นชาวต่างชาติ 20 คน

แฟ้มภาพ