แท็กซี่ติดไวรัสโคโรนา กลับบ้านได้แล้ว เหลือผู้ป่วยอีก 16 คน

            สถานการณ์ไวรัสโคโรนาในประเทศไทย ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ได้นำคนขับรถแท็กซี่ที่เป็นคนไทยคนแรกที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาโดยไม่เคยเดินทางไปประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการระบาด ได้หายดีและกลับบ้านแล้ว ทำให้รวมแล้วมีผู้ติดเชื้อในไทยที่กลับบ้านได้แล้ว 9 คน เหลือนอนโรงพยาบาล 16 คน จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 25 คน ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนว่าเสี่ยงติดเชื้อเมื่อวานนี้เพิ่มขึ้น 57 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนรวม 549 คน กลับบ้านได้แล้ว 124 คน ที่เหลืออยู่โรงพยาบาล โดยผู้ป่วยเข้าเกณฑ์นี้เป็นการตรวจเจอที่สนามบิน 48 คน และอีก 501 คนมารักษาเองที่โรงพยาบาล

          ส่วนสามีภรรยาคนไทย 2 คนที่กลับจากญี่ปุ่นแล้วติดเชื้อ กระทรวงสาธารณสุขให้รอข้อมูลก่อนว่าติดเชื้อจากที่ใด ตอนนี้ 1 คนอยู่โรงพยาบาลราชวิถี มีอาการปอดอักเสบเล็กน้อย อีกคนอยู่สถาบันบำราศนราดูร ทั้ง 2 คน อาการดี ส่วนคนไทยอายุ 70 ปีอีกคนที่ติดเชื้อและพบเป็นวัณโรคด้วย ขณะนี้อาการทรงตัว แต่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เชื่อมั่นในการรักษาของแพทย์ว่าจะทำให้ผู้ติดเชื้อทุกคนในไทยหายดี ยืนยันว่าหน้ากากอนามัยเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน

          ด้านแพทย์สถาบันบำราศนราดูรที่เป็นผู้รักษาคนขับรถแท็กซี่ เล่าว่า รับตัวมารักษาตั้งแต่ 28 มกราคม วันนั้นมีไข้ต่ำๆผสมกับไอเหนื่อย จึงรักษาตามอาการจนวันที่ 31 มกราคมที่ผลตรวจไม่พบเชื้อแล้ว จึงตรวจซ้ำอีก 2 ครั้งก็ไม่พบจึงให้กลับบ้านในวันนี้ ส่วนคนใกล้ชิดคนขับรถแท็กซี่ยังไม่พบว่า มีใครติดเชื้อ ด้านคนขับรถแท็กซี่ขอบคุณทีมแพทย์ ตอนนี้แข็งแรงดีแล้ว ขอคนขับรถแท็กซี่ทุกคนใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน และฝากถึงรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ชดเชยรายได้ให้คนขับรถแท็กซี่ที่ป่วยด้วย

          ด้านผู้บริหารสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ จะรับคนไทยทุกคนที่อยู่ใน 15 เมืองของจีนที่สายการบินมีเที่ยวบินกลับประเทศไทยฟรีตั้งแต่วันนี้ -วันที่ 8 กุมภาพันธ์ และอาจขยายเวลารับฟรีอีก 1 สัปดาห์ เมื่อกลับมาจะตรวจคัดกรองที่สนามบิน ไม่กักตัว